ภูเก็ตยังไม่พร้อมตัวเป็นจังหวัดนำร่อง ประกาศให้“โรคโควิด-19” เป็นโรคประจำถิ่น ขณะยอดป่วยพุ่งกว่า 1 พันคน
โพสเมื่อ : Monday, February 21st, 2022 : 6.06 pm
ภูเก็ตยังไม่พร้อม เสนอตัวเป็นจังหวัดนำร่อง “ประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น” แต่เสนอ ศบค. ลดจำนวนวันรักษา ผู้ติดเชื้อเหลือ 5 วัน ขณะยอดป่วยพุ่งกว่า 1,000 คนต่อวัน
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อเพิ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันที่ 20 ก.พ. มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่, ผู้ป่วยตรวจ ATK ผลเป็นบวก, นักท่องเที่ยวที่ดินทางมาตามโครงการ ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาตามระบบ Test & Go รวม 1,073 ราย เสียชีวิต 3 ราย และ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายเดือนนี้ แต่อย่างก็ตามในด้านการแพทย์ทางจังหวัดยังคงรับมือได้ เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ และส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้าน โดยขณะนี้มีผู้ป่วยที่กักตัวอยู่ที่บ้านประมาณ 7,400 คน ทยอยรักษาหายวันละ 700 – 800 คน
ส่วนปัญหาความล่าช้าในการเข้ารับการรักษาทางจังหวัดได้กำหนดมาตรการในการดำเนินการ โดยให้คนที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด สามารถติดต่อไปยังโรงพยาบาลรัฐทั้ง 4 แห่ง รวมทั้งคลินิกอุ่นใจ และโรงพยาบาล รพ.สต. และ จองคิวออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมทรัพยากร ทั้งด้านเตียง ยาและเวชภัณฑ์ รองรับ โดยให้เน้นการจัดระบบการรักษาที่บ้านหรือชุมชน (Home Isolation : HI / Community Isolation : CI) เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย พร้อมมีระบบติดตามอาการ และสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ติดเชื้อและครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถรองรับการรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและแดง รวมถึงให้บริการผู้ป่วยอื่นๆ ได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังเร่งบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุด และ เน้นปฏิบัติตามมาตรการ VUCA คือ V เร่งฉีดวัคซีน U ป้องกันตนเองครอบจักรวาล รักษาระยะห่าง ล้างมือ ใส่หน้ากาก พยายามอยู่ในที่โล่ง C สถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และ A ตรวจ ATK เป็นประจำ หากพบการติดเชื้อให้ ติดต่อรพ. สตในพื้นที่หรือคลินิกอุ่นใจ เพื่อขอคำแนะนำ โดยจะเน้นให้ผู้ที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยดูแลที่บ้าน มีการจัดยาและเวชภัณฑ์ให้ และ ติดต่อระบบการแพทย์และสาธารณสุขได้ตลอดเวลา หากมีอาการมากขึ้น จะมีระบบส่งต่อโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หากทุกฝ่ายและประชาชนร่วมมือกัน เชื่อว่าจะสามารถชะลอการระบาดครั้งนี้และสามารถขับเคลื่อนภูเก็ตต่อไปได้
ในส่วนของข้อมูลศักยภาพด้านสาธารณสุข ของจังหวัดภูเก็ต มีการใช้ยา Favipiravir ซึ่งจะมีการให้ยาดังกล่าวแก่ผู้ที่มีอาการตามดุลยพินิจของแพทย์ โดยขณะนี้จังหวัดภูเก็ต มี ผู้ป่วยสีเขียว ครองเตียง1,601 ราย(มีเตียงสีเขียว 2,774 เตียง ) ผู้ป่วยสีเหลืองครองเตียง498 ราย(มีเตียงสีเหลือง 730 เตียง ) ผู้ป่วยสีแดงครองเตียง 15 ราย(มีเตียงสีแดง 45 เตียง ) โดยขณะนี้มีผู้ป่วยสีเขียวรักษาตัวที่บ้าน( Home Isolation) จำนวนประมาณ 7,400 ราย
โดยที่ประชุมได้มีการหารือกำหนด มาตรการแก้ไขปัญหาของจังหวัดภูเก็ตดังนี้ มาตรการในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1. เฝ้าระวังและตรวจคัดกรองโควิด-19 เมื่อเข้าจังหวัด ระหว่างพำนัก ก่อนกลับประเทศ 2. จัดให้มี Hotel Isolation โดย MOU กับ โรงพยาบาล 3. กำหนดให้โรงแรมมี Hotel Room Isolation ร้อยละ 5 ของจำนวนห้องพัก โดย MOUกับ โรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อซึ่งเข้าพักในโรงแรม
ส่วน มาตรการในกลุ่มคนไทย 1. เปิดคลินิกอุ่นใจ ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นศูนย์ประเมินอาการ คัดแยกกลุ่มผู้ติดเชื้อลงทะเบียน Home Isolation และจ่ายยา favipiravir สำหรับกลุ่ม 607 2. ขยายบริการใน รพ.สต. มีการลงทะเบียน Home Isolation และจ่ายยา Favipiravir สำหรับกลุ่ม 607 3. จัดทำ Platform Phuket Organizations COVID care (POCC) เพื่อการบริหารจัดการ Home Isolation
นอกจากนี้ที่ประชุม ได้ร่วมหารือสรุปข้อเสนอของจังหวัดภูเก็ตเพื่อส่งข้อมูลเสนอ ศบค. ดังนี้ 1. ลดระยะเวลาการแยกกักผู้ติดเชื้อ จาก 10 วัน เป็นแยกกักตัว 5 วัน และ อีก 5 วัน สามารถกลับไปปฏิบัติงานได้ตามปกติ แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention 2. ปรับการรายงานผู้ติดเชื้อรายวัน โดยให้รายงานเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง (สีเหลือง) อาการรุนแรง (สีแดง) และผู้ป่วยเสียชีวิต 3. กรณี คนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดคณะใหญ่ๆ แลมีการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเกิด 50 % ขอให้ส่งกลับตามจังหวัดที่เดินทางมา เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองหน้าด่านที่มีการรักคนมาจากที่ต่างๆจำนวนมาก ทรัพยากรทางด้านสาธารณสุขที่มีอยู่ขณะนี้มีจำนวนจำกัด
ส่วนกรณีการเสนอให้จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดนำร่องในการประกาศให้โรคโควิด -19 เป็นโรคประจำถิ่น ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการเสนอเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ามีการสื่อเรื่องนี้ออกไปได้อย่างไร ในการประชุมวันนี้ไม่มีการเสนอเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยกัน แต่มองว่าขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะประกาศให้เป็นพื้นที่นำร่องได้เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น อัตราการเสียชีวิตก็ยังเกินจากมาตรการที่วางไว้ แม้จะมีผู้เสียชีวิตน้อยแต่ยังเกิน 0.1 % อยู่ จนถึงขณะนี้ขอยืนยันว่าจังหวัดภูเก็ตยังไม่ได้เสนอตัวเป็นพื้นที่นำร่อง ในการประกาศให้โรคโควิด -19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่อย่างใด
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)