ภูเก็ตฝนตกหนักทำชาวบ้านเดือดร้อนทั่ว ที่กมลาน้ำเข้าบ้านกว่า 50 หลัง

โพสเมื่อ : Tuesday, June 5th, 2018 : 4.28 pm

 ฝนตกหนักไม่เกิน 2 ชั่วโมงในภูเก็ต ทำชาวบ้านเดือดร้อนหนัก โดยเฉพาะพื้นที่กมลา น้ำจากเทือกเขาไหลบ่า ท่วมบ้านเรือนประชาชน 50 หลังคาเรือน ขณะที่พื้นที่อื่นๆ เดือดร้อนทั่วหน้า การจราจรเกือบเป็นอัมพาต ล่าสุดสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หามาตรการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน ช่วยเหลือประชาชน / น้ำท่วมผิวจราจร

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 5 มิ.ย.) มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต่อเนื่องกันเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบายไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ต พื้นที่ อ.ถลาง พื้นที่เชิงทะเล กมลา ป่าตองและอื่นๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตองมีน้ำป่าจากเทือกเขาไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน บ้านบางหวาน ต.กมลา จ.ภูเก็ต อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนถูกน้ำและดินโคลนไหลเข้าบ้านประมาณ 50 หลังคาเรือน

นอกจากนั้นยังมีบริเวณถนนเทพกระษัตรีหน้าไทยวัสดุก่อสร้าง หน้าซุปเปอร์ชีป รวมทั้งหน้าหมู่บ้านการเคหะบ้านพอนมีน้ำท่วมผิวจราจรสูงจนรถสามารถวิ่งได้แค่ 1 ช่องจราจรเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหลังจากฝนหยุดตก ใช้เวลาไม่นานสภาพน้ำท่วมก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นายนิรุท สารียา ชาวบ้านบ้านบางหวาน ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วม ในครั้งนี้ กล่าวว่า น้ำท่วมในหมู่บ้านครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 4 -5 ปี ที่ผ่านมา โดย ฝนเริ่มตกเมื่อเวลา 6.30 น และ เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนมีน้ำล้นคลองและเริ่มปริ่มๆหน้าบ้าน จากนั้นได้หยุด และน้ำลดลง แต่หลัวจากนั้นประมาณ ครึ่งชั่วโมง ฝนตกลงมาอีกชุด ครั้งนี้ตกหนักมาก และตกประมาณเกือบ 1 ชม ทำให้น้ำมาอีกครั้ง

แต่ก็ไม่คิดว่าน้ำจะมามาก เพราะที่ผ่านมาระดับน้ำที่ท่วมก็จะอยู่แค่เสาไฟฟ้าหน้าบ้าน ไม่เคยท่วมเข้าในบ้าน คิดว่าครั้งนี้ก็น่าจะเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ผิดคาดน้ำไหลมาเร็วมากมีทั้งน้ำทั้งโคลนไหลเข้าบ้านจนเก็บของไม่ทันใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีพบว่าน้ำเข้าท่วมในบ้านสูงกว่า 20 ซ.ม. แล้ว ส่วนบนถนนน้ำไหลเชี่ยวและแรงมากพัดพาถังขยะ กระถางต้นไปจำนวนมาก บางจุดชาวบ้านเดินไม่ได้เพราะน้ำเชี่ยว ซึ่งน้ำท่วมในครั้งนี้มีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนหลายสิบหลังคาเรือน

ขณะที่นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านบางหวาน ต.กมลา อ.กะทู้ จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังรอระบาย ในพื้นที่ โดยมี นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม นายอำเภอกระทู้, นายการุณ ศรีเด่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา รายงานถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยในพื้นที่มีน้ำท่วมขังบ้านครัวเรือน ประชาชน สูงประมาณ 30  – 50 ซ.ม.

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนตำบลกมลาเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนโดยประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ได้โดยทันที

พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนตำบลกมลานำเครื่องจักรเข้าเคลียร์พื้นที่ที่มีโคลนทับถมทั้งพื้นที่สาธารณะบ้านเรือนประชาชน และบริเวณผิวจราจรถนนหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้น

ส่วนกรณีในพื้นที่จุดเสี่ยง ที่มีดินโคลนถล่มหรือดินสไลด์ทางจังหวัดได้สั่งการให้องค์กรปกครองจัด เตรียมเครื่องจักรกลเฝ้าระวังเหตุดินโคลนถล่มตลอดเวลา โดยพื้นที่ที่มีเหตุโคลนถล่มแล้วคือบริเวณทางขึ้นเขากมลาทางไปป่าตอง  ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำรถ แบคโฮ ลงพื้นที่ไปทำการตักดินที่อยู่บนผิวการจราจร

หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดอื่นๆต่อไป โดยเฉพาะน้ำท่วมผิวจราจรบริเวณถนนเทพกระษัตรี ที่บริเวณหน้าบริษัทไทวัสดุก่อสร้างซึ่งจะเกิดปัญหาทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก และจุดอื่นๆอีก 2 จุด ซึ่งในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณดังกล่าวทางจังหวัดได้ตั้งงบประมาณไว้แล้วจำนวน 60 ล้านบาท แต่เป็นงบที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้

แต่อย่างไรก็ตามในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังที่บริเวณถนนเทพกระษัตรีจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในภาพรวม เพราะเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้สัญจรไปมาจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ หาหาแนวทางอื่นในการแก้ไขปัญหาเพราะจุดเหล่านั้นเป็นจุดที่เกิดปัญหาซ้ำซาก ซึ่งพรุ่งนี้ ( 6 มิ.ย.) ท้องถิ่น และแขวงการทางจะต้องนำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนด้วย