ภรรยานักลงทุนเมืองผู้ดี มอบอำนาจ เพื่อนพร้อมทนาย แจ้งความผู้รับโอนหุ้น ขอความเป็นธรรม

โพสเมื่อ : Friday, January 14th, 2022 : 9.48 am

ภรรยานักลงทุนเมืองผู้ดี มอบอำนาจให้เพื่อนพร้อมทีมทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับโอนหุ้นและผู้ครอบครองเดอะ ซัมเมอร์ พาเลซในพื้นที่ .ราไวย เพื่อขอความเป็นธรรมและปกป้องทรัพย์สินของตนเอง หลังสามีเสียชีวิต โครงการไม่มีการพัฒนาต่อ ขณะที่ที่ดินโครงการถูกขายแบ่งขายไปบางส่วน

เมื่อเวลา 16.00 .วันที่ 13 ..ที่ผ่านมา ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตนายวินเซ้นท์ จอห์น แมคโอเว่น ชาวอังกฤษ ผู้รับมอบอำนาจจากภรรยาชาวไทยของนักลงทุนชาวอังกฤษ เจ้าของโครงการเดอะซัมเมอร์ พาเลซซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุพร้อม ด้วยทีมทนายนำโดย นายณรงค์ฤทธิ์เนติเกียรติวงศ์ และ นายสาโรจน์ กูลดีน ซึ่งเป็นทนาย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบุคคลผู้รับโอนหุ้นและผู้ครอบครองกิจการ เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ .ราไวย์ .เมือง .ภูเก็ต

เนื่องจากตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้เข้ามาพัฒนาโครงการตามที่ได้ทำสัญญาไว้กับนายสตีเว่นฯ นอกนั้นแล้วยังมีการนำที่ดินบางแปลงออกจำหน่ายให้กับบุคคลภายนอก ตลอดทั้งมีการนำที่ดินบางแปลงเข้าจำนองกับบุคคลภายนอก ซึ่งภรรยาชาวไทยผู้มีอำนาจในบริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย การกระทำดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายอาญาและยังเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติหุ้นส่วนบริษัท .2499 มาตรา 41 ที่บัญญัติว่าบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือบริษัทจำกัด กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการเสียหายแก่นิติบุคคลดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และมาตรา 42 ที่บัญญัติว่า บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน จำกัด กระทำหรือยินยอมให้กระทำ ซึ่งนอกจากจะใช้สิทธิทางด้านคดีอาญาแล้วจะใช้สิทธิทวงความเป็นธรรมในคดีแพ่งต่อไป

นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากภรรยาของนักลงทุนชาวอังกฤษมาแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้เนื่องจาก นายสตีเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ เป็นนักธุรกิจชาวอังกฤษ เข้ามาประเทศไทยเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ .ภูเก็ต เริ่มจากเป็นผู้ก่อตั้งและพัฒนาโครงการ โรงแรมชื่อดัง ซึ่งเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วได้ขายกิจการดังกล่าว เพื่อมาลงทุนต่อในโครงการ เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ ภายใต้ บริษัท ปุระวนา รีสอร์ท จำกัด บนเนื้อที่ 110 ไร่เศษ ที่มต.ราไวย์.เมือง .ภูเก็ต ซึ่งภายในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย โรงแรม 6 ดาว บ้านพักอาศัย และ คอนโดมิเนียม ระดับ 5-6 ดาว สำหรับขายหรือให้เช่าระยะยาว ซึ่งกิจการดังกล่าวมูลค่าลงทุนประมาณ 3,000 -3,500 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท

เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2551 และโครงการได้พัฒนาไปแล้ว60-80% แต่นายสตเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ มีปัญหากับพนักงานบริษัทระดับผู้บริหาร จึงมีการแจ้งความดำเนินคดีอาญา ด้วยข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน จนถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี ปัจจุบันคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดแล้ว โดยศาลพิพากษายกฟ้อง แต่ระหว่างการต่อสู้คดีอาญานายสตีเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ ถูกคุมขังอยู่เป็นระยะเวลา 2 ปี เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว โดยเหตุผลว่าหากให้ประกันตัว จะหลบหนี แต่เมื่อคดีถึงที่สุด ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจึงกลับมายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาโครงการ เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ ต่อ แต่โครงการได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกทิ้งร้างในระหว่างต่อสู้คดี และไม่มีเงินลงทุนต่อ

จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากบุคคลผู้มีชื่อเสียง อ้างว่ามีเงินทุนที่จะร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว นายสตีเว่นฯ จึงได้โอนหุ้นที่ถืออยู่พร้อมส่งมอบกิจการให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาบริหารและพัฒนาโครงการต่อ โดยมีการทำบันทึกข้อตกลงและสัญญาไว้ต่อกัน แต่หลังจากมีการโอนหุ้นและส่งมอบกิจการประมาณ 7 วัน ปรากฏว่านายสตีเว่นฯ ได้รับบาดเจ็บซึ่งไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือเกิดจากการถูกฆาตกรรม จนปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้ว แต่หุ้นที่โอนให้กับบุคคลผู้มีชื่อนั้นนายสตีเว่นฯ ได้โอนหุ้นส่วนหนึ่งให้กับภรรยาชาวไทย ถือครองไว้ และให้มีอำนาจในการประชุมคัดค้านการโอนหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท แต่ภรรยาชาวไทยไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ เนื่องจากถูกกลุ่มบุคคลที่รับโอนหุ้น แจ้งความดำเนินคดีและกล่าวหาว่า ลักทรัพย์สินของบริษัท จนภรรยาชาวไทยเกิดความเกรงกลัว จึงต้องหลบหนีและไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับโครงการอีก

แต่ปัจจุบัน ภรรยาชาวไทย ผู้ถือหุ้นในโครงการ ต้องการที่จะเรียกร้องและขอความเป็นธรรมให้กับสามีผู้เสียชีวิตและต้องการที่จะปกป้องทรัพย์สินที่เป็นของตนเอง จึงได้มอบอำนาจให้กับ นายวินเซ้นท์จอห์นแมคโอเว่น และ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นำโดยนายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ นายสาโรจน์ กูลดีน ซึ่งเป็นทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ภูเก็ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบุคคลผู้รับโอนหุ้นและผู้ครอบครองกิจการดังกล่าว