พ่อวัยโจ๋ทะเลาะกับภรรยา อุ้มลูกสาววัย 11 เดือน หนีไปผูกคอตายแพร่ภาพสดผ่านเฟซบุ๊ค

โพสเมื่อ : Tuesday, April 25th, 2017 : 9.40 am

พ่อวัยโจ๋ มีปัญหาทะเลาะกับภรรยา ก่อเหตุหอบลูกสาววัย 11 เดือน ออกจากบ้านจนญาติต้องตามหาวุ่นก่อนพบกำลังแพร่ภาพถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊คนาทีใช้เชือกผูกคอลูกสาว แจ้ง ตร.ออกตามหาแต่สุดท้ายไม่ทันพบทั้งพอทั้งลูกเสียชีวิตจากการใช้เชือกผุกคอแล้ว

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 เม.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนผูกคอตาย 2 ศพ เหตุเกิดที่บริเวณ โรงแรมร้าง ม.2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.จุลอัศว์ สุวรรณิน รองสว.(สอบสวน) สภ.สาคู จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลถลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้ที่ชุดสืบสวนสภ.สาคู และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมร้าง มองจากด้านล่างขึ้นไปเห็นที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นพื้นที่ว่าง พบศพผู้เสียชีวิตใช้ด้วยเชือกไนลอนสีขาวผูกคอติดกับโครงเหล็ก ติดกันพบศพเด็กหญิงวัย 11 เดือน สภาพถูกผูกคอด้วยเชือกไนลอนเช่นเดียวกัน จากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายวุฒิสรรค์ ว่องทะเล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/2 ถนนมนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต สวมเสื้อแขนยาวสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ หันหน้าติดกำแพงของโรงแรม และติดกันพบบุตรสาวของผู้ตาย เป็นเด็กหญิงอายุ 11 เดือน สภาพถูกผูกคอด้วยเชือกไนลอนสีขาว สวมชุดลายดอกไม้สีชมพู คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำ 2 ชั่วโมง

ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้แกะเชือกแล้วนำศพทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาลถลาง เพื่อให้แพทย์ชันสูตร และจากการตรวจสอบ พื้นที่ว่างของโรงแรม พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย 1 เครื่องวางอยู่ ใกล้กันพบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลวางอยู่ นอกจากนั้นยังพบขวดน้ำโค้ก 1 ขวด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเหตุผู้ตายได้มีปัญหาทะเลาะกับภรรยา แล้วภรรยาได้ออกจากบ้าน ไปนอนบ้านของพี่ชาย ทำให้ผู้ตายเครียดและไปพาตัวบุตรสาวของตนเองหนีหายไป ภรรยาและญาติจึงออกตามหา จนกระทั่งไปพบของเฟซบุ๊คของผู้ตายกำลังถ่ายทอดสดภาพกำลังใช้เชือกผูกคอของบุตรสาว โดยไม่ระบุว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ที่ไหน ทางภรรยาและญาติจึงเข้าแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.ถลาง เพื่อติดตามตัว แต่ไม่พบจนกระทั้งมีคนพบกลายเป็นศพเสียชีวิตแล้วทั้ง 2ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ผู้ตายแพร่ภาพสดการก่อเหตุดังกล่าวได้มีคนเข้าชมเป็นจำนวนมาก และมีการแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งของผู้ตายที่เข้าไปที่แสดงอาลัยกันเป็นจำนวนมาก