พร้อมเปิดป่าตองแต่ยังต้องปิดบางลา –สถานบันเทิง ชายหาด ป้องกันโควิดแพร่ระบาดซ้ำ

โพสเมื่อ : Wednesday, April 22nd, 2020 : 9.10 pm

พร้อมเปิดเมืองป่าตองเพื่อเดินหน้าต่อ แต่ยังต้องปิดซอยบางลา สถานบันเทิง และชายหาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดรอบใหม่ หวังให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติภายใต้รูปแบบใหม่ป้องกันตนเองมากขึ้น

นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวถึงมาตรการในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว และมีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมาก ว่า สำหรับเมืองป่าตองถือว่าเป็นเมืองหน้าด่านในการรับนักท่องเที่ยวจากที่ต่างเข้ามาในพื้นที่เยอะมาก แต่หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทางเทศบาลป่าตองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเนื่องจากนอกจากการเดินผ่านมาทางเครื่องบิน ก็พบว่าป่าตองมีนักท่องเที่ยวเข้ามาทางเรือด้วย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีการคัดกรองจึงได้ประสานกับทางสาธารณสุขในการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่ด่านคัดกรองชั่วคราว ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเรือไม่มีเข้ามา ซึ่งช่วงนั้นการระบาดยังไม่เยอะ ตัวเลขขยับเล็กน้อย จะทราบก็ต่อเมือผู้ป่วยมรอาการและไปหาหมอ จึงทราบว่าภูเก็ตเรามีคนป่วยติดเชื้อกันแล้ว

หลังจากนั้นประมาณ 23 ม.ค. ได้รับการประสานจาก สสจ. ว่าการระบาดเกิดขึ้นที่ซอยบางลา และขอให้ทางเทศบาลเข้ามาช่วยในการดูแลกักกันคนที่อยู่ในซอยบางลาให้อยู่กับที่ ส่วนผู้ป่วยทางโรงพยาบาลจะเป็นคนรักษาดูแล ช่วงแรกก็ใช้วิธีประกาศประชาชสัมพันธ์ให้คนที่อยู่ในซอยบางลาได้กักกันตัวเองอยู่บ้านอยู่ห้องเพื่อลดการแพร่เชื้อ โดยทางเทศบาลเป็นคนส่งข้าวส่งน้ำให้วันละ 3 มื้อ ช่วงแรกมีประมาณ300 ราย แต่พบว่าการกักตัวไม่สามารถทำได้ 100 % มีบางคนที่เคลื่อนย้ายตัวเองไปในที่ต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่

ซึ่งการกระทำดังกล่าวเชื่อว่าไม่สามารถที่จะหยุดการแพร่ระบาด และน่าจะทำให้มีการแพร่กระจายของเชื้อไปที่อื่นได้ ทางเทศบาลจึงได้มีหนังสือประกาศของทางเทศบาลเมืองป่าตอง ให้ชาวบ้านกักกันตัวเองให้อยู่กับบ้านทุกคน เพื่อให้หยุดกิจกรรมไปมาหาสู่ระหว่างกัน แต่การประกาศของทางเทศบาลไม่มีผลทางกฎหมายอย่างจริง ๆ และไม่สามารถที่จะบังคับให้คนอยู่กับที่ได้ จึงได้ไปร้องขอจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ถ้าต้องการหยุดการแพร่เชื้อในเทศบาลป่าตองและไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดไปที่อื่น ขอให้จังหวัดประกาศปิดพื้นที่ป่าตองเพื่อให้คนอยู่กับที่มากที่สุด ให้ทุกคนอยู่กับบ้าน

หลังจากมีการล็อกดาวน์เกิดขึ้นก็ทำให้คนไม่สามารถออกไปทำงานได้ ก็ทำให้มีปัญหาการกินเกิดขึ้น คนเดือดร้อนมีมากขึ้นจากคนแค่ซอยบางลาก็กระจายไปทั้งป่าตอง เพราะฉะนั้นเทศบาลก็ต้องส่งอาหารให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบในการปิดเมืองและเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ซึ่งจำนวนผู้เดือดร้อนมีมาก แบ่งออกเป็น 15 จุด ใกล้จุดใหนให้ไปรับที่จุดนั้น รวมต้องทำข้าววันละ 12,000 กล่อง  จากการทำอาหารจำนวนมากทำให้การบริหารจัดการยากขึ้น มีเสียงสะท้อนเรื่องอาหารสาบบ้างบูดบ้างเข้ามา ทางเทศบาลก็ต้องหาทางแก้ไข และจังหวัดมีการเปิดระเบียบให้จากอาหารแห้งได้ ก็เลยมีการสอบถามคนที่รับอาหารวันละ 3 มือว่าใครจะเปลี่ยนมารับอาหารแห้งบ้าง ปรากฏว่าส่วนใหญ่ขอรับเป็นอาหารแห้ง ซึ่งต้องมีมีมากถึง 50 % ทำให้คนที่มารับข้าวแต่ละจุดก็ลดน้อยลง และลดเวลาคนออกมาจากบ้านได้อีก ส่วนคนที่ยังขอรับข้าวน้ำส่วนใหญ่เป็นประชากรแฝงและแรงงานต่างด้าวที่ยังตกค้างอยู่ ส่วนคนที่อยู่ในป่าตองก็ไปแจกเป็นถุงอุปโภคบริโภค ซึ่งการดูแลทุกคนในป่าตองจะดูแลต่อไปจนกว่าจะมีการเปิดเมืองป่าตอง

มาตรการต่อมาที่ทางเทศบาลทำคือการลงไปควานหาคนที่น่าสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด โดยร่วมกับทางสาธารณสุข ในการดำเนินการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งส่งไปตรวจสอบหาเชื้อ ซึ่งเป็นการำงานเชิงรุก หากพบว่ามีเชื้อก็จะได้นำมารักษา ส่วนคนที่ต้องสงสัยก็นำตัวไปกักที่โรงแรม โดยมีการตรวจคัดครองในพื้นที่ป่าตอง และกะทู้ รวมทั้งหมดประมาณ 4,000 เคส ทำให้ได้ผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อในเชิงรุกจำนวน 38 ราย  ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้ตัวเลขติดเชื้อของภูเก็ตในช่วงหลังลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะการที่พบผู้ป่วยเร็วเข้าสู่ระบบรักษาเร็วก็ทำให้การแพร่ระบาดไปที่อื่นมีโอกาสน้อยลง การที่เราพบผู้ป่วยเร็ว ทำให้ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะการที่พบผู้ป่วยเร็วเข้าสู่ระบบรักษาเร็วก็ทำให้การแพร่ระบาดลดลงได้เร็วน้อย

นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า ป่าตองนับเป็นพื้นที่แรกที่พบผู้ติดเชื้อก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของคนป่าตองทุกคนที่ร่วมมือกันในการที่จะทำให้การติดเชื้อลดลงให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งทุกคนพร้อมและเต็มใจ เพราะทุกคนตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ว่าเป็นใครก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด จึงพร้อมที่จะช่วยกันเพื่อให้การดำรงชีวิตต่อไปกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

ส่วนกรณีจะมีการเปิด ล็อกดาวน์ หรือไม่เปิดตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่สิ่งที่จะต้องมาร่วมกันทำ ณ ตอนนี้ คือเรื่องของการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ได้เปิดก่อน ซึ่งจากการฟังเกณฑ์ทั้งหมดรู้เลยว่าภูเก็ตอยู่ในเมืองที่เสี่ยงมาก เพราะฉะนั้นการจะเปิดเมืองโดยพิจารณาตามเกณฑ์ เชื่อว่าภูเก็ตน่าจะได้เปิดหลังสุด เพราะฉะนั้นเราจะต้องมาช่วยกันทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงน้อย หรือไม่มีความเสี่ยงในการระบาดของโรคแล้ว ซึ่งตอนนี้เขากำลังดูกันที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ แต่จุดนี้เราไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว แต่สิ่งที่เราทำได้คือการมาดูกันที่การบริหารจัดการที่มาดูว่าตอนนี้เรายังมีความเสี่ยอีกหรือไม่ ซึ่งถ้ามาดูตัวเลข ณ ปัจจุบันพบว่าตัวเลขผู้ป่วยลดน้อยลงไปเรื่อยและอยู่ในเกณฑ์ดีมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละแค่ 2 คน แต่รักษาหายกลับบ้านได้เฉลี่ยวันละ 9 คน การมีผู้ติดเชื้อขนาดนี้ถือว่าศักยภาพการบริหารจัดการของภูเก็ตก็ไม่มีความเสี่ยงในการรักษาคน

นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า ถ้าถามตนตนก็คิดว่าภูเก็ตไม่ใช่เมืองที่มีความเสี่ยงสูงแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็น่าจะมีโอกาสในการเปิดเมืองได้ แต่การเปิดเมืองก็ต้องมาดูกันในรายละเอียด ว่าธุรกิจใด หรือกิจกรรมใดที่ควรจะเปิด และธุรกิจและกิจกรรมใดที่จะต้องปิดต่อเพื่อให้เมืองเดินต่อไปได้ ซึ่งการเปิดเมืองนั้นตนเห็นด้วยและคิดว่าป่าตองไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงแล้ว แต่การเปิดเมืองป่าตองจะต้องยังคงปิดในส่วนของสถานบันเทิง สถานบริการ ซอยบางลา และชายหาด เนื่องจากจุดเหล่านี้อาจจะเป็นจุดที่แพร่เชื้อต่อไปได้ ซึ่งหากทำได้ก็พร้อมที่จะเปิด แต่ต้องต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของภูเก็ตพร้อมที่จะเปิดเพื่อให้ธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติในรูปแบบใหม่ คือการเฝ้าระวังและป้องกันตนเอง