พร้อมสร้างปอดแห่งใหม่ให้ภูเก็ต บนที่ดินเรือนจำเก่ากลางเมือง

โพสเมื่อ : Wednesday, October 12th, 2022 : 5.14 pm

เร่งเคลียร์ปัญหาส่งมอบที่ดินเรือนจำภูเก็ตเก่า ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ – ที่จอดรถ  ด้าน อบจ. พร้อมดำเนินการออกแบบ สร้างปอดแห่งใหม่ ให้ประชาชนในพื้นที่

วันนี้ ( 10.00 น.) นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ประชุมร่วมกับนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต ผู้แทนจากสำนักงานธนารักษ์จังหวัดภูเก็ต ที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีพัฒนาที่ดินบริเวณเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเก่าเป็นสวนสาธารณะ และ ลานจอดรถ หลังจากทางเรือนจำได้ย้ายนักโทษ และเจ้าหน้าที่ไปอยู่ที่เรือนใจใหม่ และส่งมอบพื้นที่จำนวน 47 ให้กับกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม

สำหรับในการประชุมในครั้งนี้เป็นการหารือถึงการส่งมอบพื้นที่ จากกรมธนารักษ์ ให้กับหน่วยงานที่จเข้าไปดำเนินการพัฒนาเพื่อสร้างสวนสาธารณะในพื้นที่ดังกล่าว โดยมี แนวทางในการดำเนินการที่เหมาะสม ซึ่งมี 2 แนวทาง ในการส่งมอบพื้นที่ 1 ธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่ให้กับจังหวัดภูเก็ตจำนวน จำนวน 43 ไร่ หลังจากนั้นให้ อบจ.ภูเก็ต และเทศบาลลงนามMOU กับทางจังหวัดในการพัฒนาที่ดินดังกล่าวตามแผนที่วางไว้ และ 2 ธนารักษ์ ส่งมอบที่ดินให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด และเทศบาลนครภูเก็ตโดยตรง แต่ทั้ง 2 แนวทางจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงการใช้พท้นที่ของธนารักษ์

นายเรวัต กล่าวว่า ในส่วนของอบจ.พร้อมที่จะดำเนินการไม่ว่าจะมีการส่งมอบที่ดินแบบใหน เพราะถ้าสามารถสร้างสวนสาธารณะบนที่ดินเรือนจำเก่าได้ ซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต มีพื้นที่มากกว่า 40 ไร เหมือกับได้สร้างปอดแห่งใหม่ให้กับคนภูเก็ต ได้ใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกายพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งเทศบาลเอกต้องการที่จะใช้พื้นที่ยางส่วนในการทำเป็นสถานที่จอดรถ เพื่อรองรับคนที่มาเที่ยวในตัวเมือง นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งขณะนี้รอเรื่องของความชัดเจนกฃของพื้นที่ และทาง อบจ.พร้อมที่จะออกแบบสวนสาธารณะปอดแห่งใหม่ของชาวภูเก็ตทันที

สำหรับเรือนจำจังหวัดภูเก็ตหลังเก่า มีอายุประมาณ 120 ปี สร้างขึ้นเมื่อปี 2444 ตั้งอยู่เลขที่ 11 ถนนดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่อยู่ใจกลางเมือง มีพื้นที่ประมาณ 47 ไร่ สำหรับเรือนจำดังกล่าวนับเป็นเรือนจำเก่าแก่อีกแห่งของจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันไม่ได้ใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษแล้ว เนื่องจากมีความคับแคบไม่สามารถรองรับนักโทษที่มีจำนวนมา