พรุ่งนี้ลุ้น“ฟีนิกซ์” พ้นน้ำ ส่งพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหาเหตุจม

โพสเมื่อ : Wednesday, November 14th, 2018 : 3.34 pm

พรุ่งนี้ลุ้น “ฟีนิกซ์” พ้นน้ำ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมผู้เชี่ยวชาญเข้าพร้อมตรวจสอบหาสาเหตุเรือจม  “บิ๊กโจ๊ก” ระบุต้องดำเนินคดีทุกส่วนร่วมทั้งนอมินี ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว

วันนี้ ( 14 พ.ย.) ที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาน รักษาราชการ ผบช.สตม. รวมทั้ง อธิบดีกรมเจ้าท่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำสื่อมวลชนจากประเทศจีน ส่วนกลาง และ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมสังเกตการณ์ การกู้เรือฟีนิกซ์ ซึ่งจมอยู่ใต้ทะเลอันดามันด้านหลังเกาะเฮ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังนำนักท่องเที่ยวและลูกเรือกว่า 100 ชีวิตฝ่าคลื่นสูง 5 เมตรเพื่อเดินทางกลับเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง แต่ถูกคลื่นซัดเข้าใส่จนเป็นเหตุให้เรือจมและนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตถึง 47 คน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา

สำหรับการกู้เรือในครั้งนี้ ทางกรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทกู้เรือรายใหม่จากสิงคโปร์ เข้ามาดำเนินการ หลังจากยกเลิกบริษัทที่รับกู้เรือรายเก่าเนื่องจากไม่สามารถกู้เรือได้สำเร็จ โดยครั้งนี้มีการใช้เรือเครนขนาด 1,200 ตัน จากประเทศสิงคโปร์เข้ามา พร้อมด้วยอุปกรณ์ และนักประดาน้ำ ชาวต่างชาติและคนไทย เข้าร่วมปฎิบัติการ โดยเรือเครนพร้อมด้วยเรือบาสได้เดินทางไปยังจุดที่เรือฟีนิกซ์ จมตั้งแต่เมื่อวานนี้ ( 13 พ.ย.) และลงมือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ( 14 พ.ย.)

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การปฏิบัติการกู้เรือฟีนิกซ์ เป็นการสื่อให้ต่างชาติเห็นว่า ทางรัฐบาลไทยตั้งใจในการที่จะกู้เรือขึ้นมาเพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพราะเรือลำที่เกิดเหตุถือเป็นวัตถุพยานที่สำคัญ ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ว่าจ้างบริษัทเรือเครนซึ่งมีลำเดียวในเอเชียมาดำเนินการกู้เรือเชื่อว่าไม่เกิน 5 วันเรือฟีนิกซ์จะต้องโผล่พ้นน้ำอย่างแน่นอน

หลังจากกู้เรือขึ้นมาได้แล้ว ในส่วนของพนักงานสอบสวนที่ได้รับการแต่งตั้งและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการเก็บพยานหลังฐานก็จะลงพื้นที่เพื่อเก็บพยานหลังฐานและตรวจสอบหาสาเหตุของเรือจม นอกจากนั้นก็จะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการต่อเรือ ทั้งคนไทยและต่างประเทศจะเข้าตรวจสอบว่าเรือลำดังกล่าวมีการต่อเรือที่ได้มาตรฐานหรือไม่  มีแบบแปลน และโครงสร้างเรือเป็นอย่างไร หลังจากนั้นจะนำข้อมูลที่มาประประกอบในสำนวนการสอบสวนเพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อไป ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับต่างชาติว่ารัฐบาลไทยมีความตั้งใจที่จะทำความจริงให้ปรากฎ

ขณะที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการ ผบช.สตม. กล่าวว่า การกู้เรือฟีนิกซ์นั้นทางนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยกรมเจ้าท่า ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดำเนินการเพื่อที่จะกู้เรือให้สำเร็จ  ซึ่งจากบริษัทกู้เรือประเทศสิงคโปร์เข้ามาดำเนินการ เนื่องจากเป็นบริษัทที่ได้มาตรฐานและเป็นเรือเครนลำเดียวในเอเชีย

ซึ่งการกู้เรือฟีนิกซ์เราต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินการเพื่อเรียกความเชื่อมันของนักท่องเที่ยวและต่างประเทศกลับมาให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพราะเวลานี้เรื่องการท่องเที่ยวไม่ได้พูดกันเฉพาะเรื่องของรายได้ที่เข้าประเทศเท่านั้น แต่การท่องเที่ยวหมายถึงเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญด้วย ซึ่งเรื่องความปลอดภัยไม่ได้อยู่ที่เรือเพียงอย่างเดียวแต่รวมไปถึงเครื่องบิน และรถด้วย เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันสร้างความเชื่อ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า เรือฟีนิกซ์ถือเป็นวัตถุพยานที่สำคัญ ที่จะต้องแสดงให้ต่างชาติเห็นว่าเรามีความตั้งใจในการค้นหาความจริง หลังจากที่กู้มาแล้วก็จะมีการตรวจสอบในทุกๆด้าน ในทุกมิติ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเรือล่มในครั้งนี้ รวมถึงการตรวจสอบเรื่องของนอมินีก็ยังต้องมีการดำเนินการต่อ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา

ปัจจุบันการสร้างความเชื่อมันทางเรือทุกฝ่ายกำลังดำเนินการแล้ว เรือที่จะออกจากท่าเทียบเรือทั้ง 24 แห่งในจังหวัดภูเก็ตจะมีกำลัง 3 ฝ่าย ร่วมตรวจสอบ ต่อไปนี้จะไม่มีการปล่อยเรือบนกระดาษแล้ว เรือที่จะออกจากท่าทุกลำจะต้องผ่านการตรวจสอบจริงๆ ซึ่งการดำเนินการรวมไปถึงการตรวจรถด้วยหลังจากนี้ เพราะนิยามความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญของการเป็นเมืองท่องเที่ยว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการกู้เรือฟีนิกซ์ที่จมอยู่ในทะเลลึกกว่า 45 เมตร ขึ้นมา แต่เนื่องจากอุปสรรคในเรื่องของอากาศ คลื่นลมแรง และอุปกรณ์ไม่พร้อมทำให้การกู้เรือทำได้ไม่สำเร็จ แต่การกู้เรือรอบ 2 นี้มั่นใจว่าสามารถดำเนินการได้อย่างสำเร็จแน่นอนเนื่องจากใช้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ และมีการเสริมอุปกรณ์เข้ามาเพียงพอ ประกอบกับช่วงนี้ทะเลอันดามันไม่มีมรสุม เชื่อไม่เกิน 5 วัน เรือฟีนิกซ์โผล่พ้นน้ำแน่นอน

ขณะที่ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พล.ต.ต.สุรเชษ กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของคดีนอมินี และประมาทร่วมกันทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว ซึ่งในส่วนของนอมินีนั้นจากการตรวจสอบเส้นการเงินพบมีความผิดชัดเจน ร่วมทั้งในส่วนของคนที่เป็นนอมินี แค่ปี 2558 รับเป็นผู้บริหารถึง 8 บริษัท ส่วนคดีประมาทร่วม รอพยานหลักฐานชิ้นสำคัญคือเรือฟีนิกซ์

ด้านนายธนภัทร เหมมังกร ทีมกู้เรือฟีนิกซ์ กล่าวถึงขั้นตอนการกู้เรือขึ้นจากใต้ทะเล ว่า จากการตรวจสอบจุดตั้งเรือพบว่าเรือตั้งอยู่เกือบตรง สภาพตัวเรือมีความสมบูรณ์ประมาณ 70 % อุปกรณ์ที่เสียหายเป็นอุปกรณ์เสริม หลังจากนี้นักประดาน้ำจะนำเชือกที่สามารถรับน้ำหนักได้เส้นละ 160 ตัน ลงไปผูกในส่วนของหัวเรือ โดยสอดไปใต้เรือจำนวน 2 เส้น และนำมาผูกบริเวณหนังคาเรือ ในส่วนของใต้เรือก็ทำลักษณะเดียวกัน หลังจากนั้นจะใช้เครนค่อนยกขึ้นมา จากก้นทะเลซึ่งเรือจมอยู่ในทรายประมาณ 1 เมตร โดยจะค่อยๆดึงขึ้นมาประมาณ 4 เมตรให้พ้นจากท้องทะเลเพื่อดูการตรงตัวของเรือ

ถ้าเรือทรงตัวได้ไม่เอียงก็จะดึงขึ้นมาอีกประมาณ 50 เมตร เพื่อดูการทรงตัวเช่นเดิม ถ้าพบว่าสภาพเรือพร้อมก็จะค่อยดึงขึ้นมาช้า คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการดึงเรือขึ้นมาบริเวณผิวน้ำ เมื่อดึงมาอยู่ผิวน้ำก็จะจะใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกจากตัวเรือและส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบเพื่ออุดรอยรั่วของตัวเรือถ้ามีรอยรั่วซึ่งอุปกรณ์ในส่วนนี้ได้มีการเตรียมการณ์ไว้พร้อม

หลังจากนั้นก็จะลากเรือมาเทียบกับเรือบาสลำเล็ก เพื่อให้ประคองเรือฟีนิกซ์ในขณะที่ลากไปยังคานเรือรัตนชัย ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างจากเรือจมประมาณ 15 กิโลเมตร  ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาเดินทางจากจุดเรือชมไปยังคานเรือประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางก็มีการเตรียมเครื่องสืบน้ำ และอุปกรณ์อุดรอยรั่วไปด้วย ส่วนการกู้เรือขึ้นจากน้ำมั่นใจ ว่า พรุ่งนี้สามารถกู้เรือฟีนิกซ์ขึ้นจากทะเลได้อย่างแน่นอน เพราะจากประสบการณ์และสมรรถนะของเครนที่สามารถยกของที่จมอยู่ในทะเลได้ลึกถึง 100 เมตร และ หนักถึง 1,200 ตัว เป็นใน 6 ตัวที่มีอยู่ในโลก เป็นหนึ่งเดียวในเอเชีย สำหรับเรือฟีนิกซ์ มีน้ำหนักเพียง 200 ตัวเท่า ไม่เกินความสามารถของเรือเครนที่จะยกได้