“พรรคกล้า” พร้อมชิงเก้าอี้ ส.ส.ภูเก็ต 3 เขต ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจของคนภูเก็ตต้องได้รับการแก้ไข

หัวหน้าพรรคกล้า “กรณ์ จาติกวณิช” ประกาศพร้อมส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.ภูเก็ต ครบทั้ง 3 เขตแน่นอน เปิดตัวแล้ว 1 “เทมส์ ไกรทัศน์” ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจภูเก็ตต้องได้รับการแก้ไข

วันนี้ (9 ต.ค.) ที่โรงแรมอังสนา ลากูน่าภูเก็ต นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้ประชุมแกนนำพรรคกล้าในพื้นที่ถลาง และจังหวัดภูเก็ต เพื่อเฟ้นหาตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ในนามพรรคกล้า โดยมีนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคกล้า พร้อมแกนนำพรรคกล้า เข้าร่วม พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า

ในช่วงที่ต้องอยู่ภูเก็ต 7 วัน จากการเดินทางมาจากต่างประเทศ ได้ใช้โอกาสนี้ในการพบปะพี่น้องประชาชน นักธุรกิจ ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ในหลากหลายกลุ่มในภูเก็ตได้รับการต้อนรับจากคนภูเก็ตที่อบอุ่นมากในทุกๆกลุ่ม และได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวภูเก็ต โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วน คือ ปากท้องและปัญหาเศรษฐกิจ เป็นปัญหาหนักที่คนภูเก็ตกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ จากที่นักท่องเที่ยวหายไป ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจภูเก็ตต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก เมื่อเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ ทำให้คนภูเก็ตขาดรายได้ เศรษฐกิจซบเซา และมีคำถามตามมามากมายว่า จากวันนี้สู่อนาคตภูเก็ตจะฝ่าวิกฤตปัญหาและอุปสรรคนี้ไปได้อย่างไร จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของภูเก็ตกลับมาขับเคลื่อนได้เหมือนเดิม

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวต่อว่า ภูเก็ตเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ พรรคกล้าได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจมากที่สุด เพราะหากเศรษฐกิจดี ทุกคนมีรายได้ การพัฒนาด้านอื่นๆก็จะง่ายตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นความถนัดของพรรคกล้าที่ได้รวมผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับบนไปจนถึงระดับรากหญ้า ซึ่งภูเก็ตมีจุดขายในหลายๆเรื่อง ทั้งธรรมชาติ อาหารการกิน วัฒนธรรม ฯลฯ ที่สามารถขยายผลนำไปสู่การสร้างรายได้ให้กับคนภูเก็ตได้

“ปัญหาเศรษฐกิจของภูเก็ตเชื่อมโยงจากโลกภายนอก เพราะภูเก็ตต้องพึ่งพาคนจากภายนอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พรรคกล้าได้ประกาศนโยบายของพรรคที่จะผลักดันให้ภูเก็ตจัดการตนเอง โดยมีผู้ว่าฯมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้คนภูเก็ตทำมาหากินได้เต็มศักยภาพมากขึ้นในอนาคต เพราะที่ผ่านมาคำสั่งต่างๆ หรือนโยบายที่มาจากส่วนกลางไม่ตอบโจทย์ความเป็นภูเก็ตเท่าที่ควร” นายกรณ์ กล่าวและว่า

เช่น โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เป็นการผลักดันจากภูเก็ตไม่สู่ส่วนกลาง มีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ มากมายในการดำเนินการ จนทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาน้อยและรายได้ไม่ได้กระจายไปสู่กลุ่มคนทุกกลุ่ม แม้แต่กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่เองก็ไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มากนัก เพราะคนที่เข้ามายังน้อยมาก เข้ามาแค่เดือนละ 1 หมื่นคน จากเดิมที่เข้ามาถึงเดือนละ 1 ล้านคน ขณะนี้ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการที่จะผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเมืองพิเศษที่บริหารจัดการและกำหนดนโยบายเองในพื้นที่

นายกรณ์ ยังกล่าวถึง การวางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ในนามพรรคกล้า ทั้ง 3 เขต ว่า พรรคกล้าเป็นการผสมผสานของคนรุ่นใหม่ และคนหน้าใหม่ทางการเมือง เรามีอดีต ส.ส.ภายในพรรคเพียง 3 คนเท่านั้น เพราะเราต้องการสร้างพรรคการเมืองที่รวมคนหลากหลายอาชีพและมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่สร้างสรรค์ และเป็นคนที่มีแนวความคิดเดียวกัน พรรคกล้าเป็นแพลตฟอร์มที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สร้างสรรค์และการแข่งขันที่ปราศจากการซื้อเสียง ทำให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสทางการเมืองมากขึ้น

สำหรับจังหวัดภูเก็ตนั้น พรรคกล้าจะส่งผู้ลงสมัครับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 3 เขต โดยได้มีการเปิดตัวไปแล้ว 1 คน คือ คุณเทมส์ ไกรทัศน์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 2 เขตนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุย และจะมีการเปิดตัวพร้อมกันทั้ง 3 เขต ในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป แต่ยืนยันว่าพื้นที่ภูเก็ตนั้นพรรคกล้าส่งครบทั้ง 3 เขตแน่นอน และทางพรรคกล้าพร้อมที่จะเปิดรับผู้ที่จะลงสมัครับเลือกตั้งในนามของพรรค เพียงแต่บุคคลนั้นเป็นคนที่มีคุณสมบัติของความเสียสละ มีจิตอาสา ในใจรู้ว่าตัวเองลงเล่นกาเมืองเพื่อช่วยให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้นและช่วยในการผลักดันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และที่สำคัญพร้อมที่จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์