พนักงานป่าไม้ พบกำไลทองตามหาเจ้าของจนเจอโลกโซเชียลแห่ชื่นชม

โพสเมื่อ : Wednesday, June 28th, 2017 : 7.24 am

แห่ชื่นชม พนักงานพิทักษ์ป่าฯ พบกำไลทองคำ หนัก  1 บาท ตามหาส่งคืนเจ้าของ เจ้าของมอบเงินตอบแทนน้ำใจ 2,000 บาท แต่ไม่รับ ระบุ จำคำพ่อ – แม่ สอนได้ เสอม ว่า สิ่งไหนที่ไม่ใช่ของตนเองห้ามเอา และให้ทำตัวเป็นคนดี จึงยึดคำนี้สอนลูกสอนหลานมาถึงทุกวันนี้

จากกรณีที่เฟซบุ๊คชื่อ “บ้านลิพอนใต้ ม.5”  ได้แชร์ข้อความว่า คนดีบ้านลิพอนใต้ กรรมการหมู่บ้านลิพอนใต้ ทุกคนขอชื่นชมในความดีของ “คุณทวี ทองหยู” เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดภูเก็ต ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านลิพอนใต้หมู่ที่ 5 ได้เก็บกำไลข้อมือมูลค่าสองหมื่นกว่าบาท ได้และตามหาเจ้าของส่งคืนให้แก่ “คุณรัตนาพร ศรีรัตนาภรณ์” เป็นที่เรียบร้อยด้วยคุณงามความดีของ “คุณทวี” กรรมการหมู่บ้านลิพอนใต้ ทุกคนขอให้คุณทวีและครอบครัวจงมีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตลอดไปด้วยเทอญ

 

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าว ทางโลกโซเชียลก็ได้มีการแชร์ข้อความดังกล่าวไปยังกลุ่มไลน์ต่างๆ และมีการแชร์ภาพและข้อความกันเป็นจำนวนมาก ต่างก็การแสดงความคิดเห็นชื่นชม อย่างกว้างขวางถึงการทำความดีไม่หวังผลตอบแทนของบุคคลดังกล่าว

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปหา นายทวี ทองหยู เพื่อสอบถามความในใจและสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น  ทราบว่านายทวี มีอาชีพเป็นพนักงานพิทักษ์ป่า ส.2 โดยเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะรอรับหลาน ที่บ้านท่าเรือห่างจากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ขาออกนอกเมืองประมาณ 200 เมตร ก็ได้เหลือบไปเห็นกำไลสีทองตกอยู่ริมถนน จึงได้เก็บขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าเป็นทองคำ จึงได้เดินตามหาเจ้าของบริเวณใกล้เคียง

แต่ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงเดินกลับมายังจุดที่รอรับหลาน เมื่อหลานมาถึงก็พาหลานไปส่งที่บ้าน

 

ส่วนตนขับรถกลับมายังจุดที่พบกำไลอีกครั้ง เพื่อตามหาเจ้าของกำไล และพบหญิงสาว 2 คน นำไฟฉายมาส่องลักษณะเหมือนหาสิ่งของ ตนจึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่าทั้ง 2 คนมาหากำไลข้อมือที่ทำสูญหาย ซึ่งตนรู้สึกดีใจมากและเชื่อว่าเป็นเจ้าของตัวจริงจึงนำกำไลมอบคืนให้ส่วนเจ้าของกำไล  ได้มอบเงินให้ตนจำนวน 2,000 บาท เพื่อตอบแทนน้ำใจ แต่ตนไม่ขอรับ ทางเจ้าของกำไล จึงขอถ่ายรูปและนำไปแชร์ในเฟซบุ๊ค จนมีคนชื่นชมจำนวนมาก

 

นายทวี กล่าวต่ออีกว่า ตนไม่เคยคิดที่จะเอาทรัพย์สินที่พบไปเป็นเจ้าของ ตนเข้าใจถึงหัวอกของคนที่ทำของหายว่าเขามีความเป็นทุกข์อย่างไรเพราะทรัพย์สินทุกชิ้นย่อมมีค่ากับเจ้าของทั้งนั้น และตั้งแต่เด็กจนโตพ่อแม่ สอนเสมอว่า สิ่งไหนที่ไม่ใช่ของเราห้ามเอา  คำสอนนี้ตนก็ได้สอนลูกสอนหลานของตนทุกคน เมื่อพบสิ่งของที่ไม่ใช่ของเราก็ให้ตามหาและคืนเจ้าของ รวมทั้งให้เป็นคนดีของสังคม นี่คือสิ่งที่ตนยึดและปฏิบัติมาตลอด