ผู้ว่าฯสั่งเร่งหาที่มา จระเข้ พบมีอาการเครียดไม่ยอมกินอาหาร
โพสเมื่อ : Sunday, September 3rd, 2017 : 7.04 pm
ผู้ว่าฯ เยี่ยมอาการจระเข้ยักษ์ หลังถูกจับจากขุมน้ำหน้าหาดเลพัง จ.ภูเก็ต มาไว้ที่บ้านพักชั่วคราว พบตั้งแต่จับมายังไม่ยอมกินอาหารที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้ พร้อมสั่งประมงเร่งหาที่มาของจระเข้ให้ชัดเจนมาจากธรรมชาติ หรือคนเลี้ยง
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังการตรวจเยี่ยมติดตามอาการจระเข้ที่จับมาไว้ ที่บ่อพักฟื้นศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) บ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า ขณะนี้ในเรื่องของชนิดจระเข้ที่เจ้าหน้าที่จับตัวมาได้หลังจากพบว่ายน้ำอยู่ในทะเลและย้ายมาอยู่ที่ขุมน้ำหน้าหาดเลพัง ทางประมงจังหวัดภูเก็ตยืนยันชัดเจน ว่า เป็นจระเข้น้ำเค็ม เพศผู้ ความยาว 3 เมตรเศษ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม
ส่วนแนวทางในการดูแลจระเข้ดังกล่าวหลังที่มีการจับมาได้แล้ว มี อยู่ 2 แนวทาง คือ หากเก็บไว้ที่นี่ ทางศูนย์เพาะเลี้ยงฯ จะมีศักยภาพพอในการดูหรือไม่ เพราะว่าการเลี้ยงนั้นจะต้องมีอาหารเพียงพอ และจะต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างในการดูแลให้เค้ามีความปลอดภัยสูงสุด และอีกแนวทางคือการส่งมอบให้หน่วยงานอื่นเป็นผู้ดูแล ซึ่งขณะนี้ทางประมงได้ทำหนังสือไปยังกรมประมงเพื่อตัดสินใจว่า จะมอบจระเข้ให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบและดูแล เนื่องจากการเลี้ยงจระเข้จะต้องมีศักยภาพ มีความพร้อม และเป็นไปตามธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สวนสัตว์ หรือหน่วยงานที่มีศักยภาพในการดูแลจระเข้ได้
“อย่างไรก็ตามจากการดูสภาพของจระเข้พบว่า ยังคงมีอาการซึมเศร้า เครียด และ ไม่กินอาหาร ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการปรับตัว เนื่องจากปกติเค้าจะอาศัยอยู่ในน้ำ และ ชายฝั่ง มีพื้นที่กว้างอย่างเป็นอิสระ เพราะเค้าเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เมื่อจับมาอยู่ในที่จำกัดทำให้เค้าเกิดอาการเครียดได้ โดยทางประมงจังหวัดได้มีการประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางเข้ามาดูแลอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อรักษาอาการและให้กลับมากินอาหารได้ปกติ คาดว่าจะเดินทางเข้ามาในช่วง 1 – 2 วันนี้ ส่วนจะต้องอยู่ในบ่อพักอีกกี่วันนั้นคงไม่สามารถบอกได้ เพราะอำนาจการเคลื่อนย้ายอยู่ที่อธิบดีกรมประมง ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือหารือไปแล้ว”
นายนรภัทร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข้อสงสัย ว่า เมื่อเป็นจระเข้น้ำเค็มแล้ว ในพื้นที่จะมีจระเข้ ตัวอื่นอีกหรือไม่ ขณะนี้ได้สั่งให้ประมงและหน่วยงานอื่นๆ เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ให้มากขึ้น และให้โจทย์ไปกับประมงจังหวัดภูเก็ต ไปหาข้อเท็จจริง ว่า จระเข้ตัวดังกล่าวมีที่มาจากไหน มาจากแหล่งธรรมชาติ หรือ มาจากแหล่งที่มีการเพาะเลี้ยง ซึ่งการดำเนินการไม่จบแค่เพียงว่าจับจระเข้ได้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ต้องไปตรวจสอบว่า ในรัศมีหรือบริเวณที่มีการพบจระเข้ดังกล่าว จะมีอยู่ตามธรรมชาติ ต้องอาศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาตรวจสอบ และหากไม่ใช่มีอยู่ตามธรรมชาติก็ต้องไปดูว่ามาจากทีไหน เพราะจระเข้เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ซึ่งคงไม่ได้อยู่แต่ในทะเลอย่างเดียว แต่จะขึ้นมาบนชายหาดเพื่อหายใจ จากนั้นก็จะกลับลงทะเลไปแล้ว
ซึ่งหากตรวจสอบว่าไม่มีแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติ ก็อาจจะสรุปได้ว่าเป็นจระเข้เลี้ยง แต่ก็ต้องไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่า เลี้ยงได้อย่างไร ซึ่งได้ให้ทางประมงจังหวัดไปตรวจสอบว่าในพื้นที่บริเวณดังกล่าวเคยพบการเลี้ยงจระเข้หรือไม่ เพราะอาจจะเคยมีคนเลี้ยงไว้ เนื่องจากดูลักษณะที่พบในวันแรกพบว่าจระเข้ค่อนข้างสมบูรณ์ แสดงว่าต้องอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีอาหารการกินที่ดี แต่ทั้งหมดเป็นเพียงการสันนิษฐานในเบื้องต้น
“ดังนั้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนทางประมงก็จะต้องนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ เพื่อจะได้ตอบข้อสงสัยต่างๆ ได้ชัด โดยเฉพาะประเด็น ว่า มาจากแหล่งใด เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วจะได้หาวิธีการและมาตรการในการป้องกันต่อไป โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านเพิ่มความระมัดระวังตรวจสอบพื้นที่ ที่คาบเกี่ยวอย่างต่อเนื่องตลอด และจะต้องหาข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเคยมีการพบร่องรอย จระเข้ หรือไม่อย่างไร ” นายนรภัทร กล่าว
- สิ้นสุดการรอคอย! ต้นปี 68 นี้ คนภูเก็ต-นักท่องเที่ยว ได้นั่งแน่รถโดยสาร EV Bus อ...
- เปิดใช้แล้ว! อาคารศูนย์อบรมจริยธรรมอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต...
- อาณา ดีเวลอปเมนท์ เปิดตัว “SERRANA” วิลล่าพรีเมี่ยมย่าน “ม่าหนิก” เฟสแรก 20 ยูน...
- กสิกรไทย เปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ “FX EV Car” ที่ภูเก็ต...
- โชว์เรื่องราวความรักแบบฟินๆที่เดียวในโลก ที่อควาเรียภูเก็ต...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ ทต.ศรีสุนทร สำรวจพื้นที่เพื่อปรับปรุงถนน ซ.บ้านม่าหนิก-กะทู้ ...
- December 2024 (2)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)