ผู้ประกอบการเรือเจ็ทหาดกะรนร่วมตร.รวบโจ๋ลักทรัพย์นทท.

ผู้ประกอบการให้เช่าเรือเจ็ทสกีหาดกะรน ร่วม กับ ตร.กะรน จับกุมโจ๋ ก่อเหตุหยิบกระเป๋านักท่องเที่ยว ที่วางไว้บนชายหาดกะรน แล้วหลบหนีได้ทั้งไอโฟน 2 เครื่อง เงินสดกว่า 3 พันบาท แต่ผู้ประกอบการเห็น จึงไล่ติดตามจับกุมตัวส่งตำรวจ ผู้ต้องหารายดังกล่าวตำรวจเฝ้าติดตามตัวมานานแล้วหลังตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (11 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ภายใต้การอำนวยของ พ.ต.อ.สัญญา ทองสวัสดิ์ ผกก.สภ.กะรน พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รอง ผกก.ป สภ.กะรน พ.ต.ต.วิชัช คงทาไหว สวป.สภ.กะรน นำโดย ร.ต.อ.พิชญุตม์ ศรีนาค รองสวป.สภ.กะรน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 และเจ้าหน้าที่สายตรวจสภ.กะรน ร่วมกับ นายสุทัศน์ โวหาร อายุ 40 ปี ผู้ประกอบการให้เช่าเรือเจ็ทสกีหาดกะรน และ นายเลอเดช สันโดษ อายุ 40 ปี ผู้ประกอบการให้เช่าเรือเจ็ทสกี

ร่วมกันจับกุม นายยุรนันท์ สกุลดี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ถ.สองพี่น้อง ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์ไอโฟน จำนวน 2 เครื่อง เงินสด 3,165 บาท กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ และ กระเป๋าสตางค์ จำนวน 2 ใบ โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายสุทัศน์ฯ และ นายเลอเดชฯพบเห็นนายยุรนันท์ ผู้ต้องหา เดินวนเวียนอยู่ที่ชายหาดกะรน ที่บริเวณนักท่องเที่ยววางกระเป๋าไว้ ขณะที่นักท่องเที่ยว ลงไปเล่นน้ำ  ต่อมาเห็นนายยุรนันท์ ได้หยิบกระเป๋าสะพายสีดำ ของนักท่องเที่ยวที่วางอยู่แล้วเดินออกมาจากชายหาดอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าถนนกะรน

จากนั้น นายสุทัศน์ฯ และ นายเลอเดชฯ จึงได้ตะโกนออกไปว่า “หยิบกระเป๋านักท่องเที่ยวทำไม” นายยุรนันท์ ผู้ต้องหาได้ยินและถือกระเป๋าดังกล่าววิ่งหนี ทาง นายสุทัศน์ฯ และ นายเลอเดชฯ จึงได้วิ่งไล่ เมื่อใกล้ ถึงตัวนายยุรนันท์ จึงโยนกระเป๋าทิ้งในที่พงหญ้าข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร ส่วนนายยุรนันท์ ถูกจับกุมตัวได้ จากนั้นพลเมืองดีได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปสอบสวนที่ สภ.กะรน โดยทราบ ว่ากระเป๋าดังกล่าวเป็นของนักท่องเที่ยวสามีภรรยาชาวรัสเซีย ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้เฝ้าติดตามตรวจสอบพฤติกรรมมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมได้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ของผู้อื่น พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปนอกจากนั้น ทางนักท่องเที่ยวได้กล่าวขอบคุณพลเมืองดีทั้ง 2 คนที่ร่วมกับจับกุมคนร้ายได้ ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียทรัพย์ไปอย่างแน่นอน และยืนยันจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกแน่นอน