ผู้ต้องหาแก๊งจำนำทองปลอม แวะขอชาร์ตแบตฯโทรศัพท์ ที่สภ.ป่าตอง ถูกชี้ตัวจับทันควัน

โพสเมื่อ : Monday, June 5th, 2017 : 1.51 pm

จนมุม ! ตำรวจผู้ต้องหาแก๊งจำนำทองปลอม หลังเดินเข้าไปขอชาร์ตแบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ ที่สถานีตำรวจป่าตอง เจอผู้เสียหายไปแจ้งความ จำได้ชี้ให้ตำรวจรวบได้ทันควัน ขณะที่ผู้ต้องหาร่วมแก๊งยังหนีได้อีก 2 ราย

เมื่อเวลา 09.10 น. วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนำทองปลอมมาจำนำ จำนวน 6 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต คดีร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งได้นำทองปลอม มาจำนำตามร้านทองในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือน เม.ย. – ต้นเดือน มิ.ย.60

 

สำหรับผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.นายบุญเทียร ขอนสงเคราะห์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ม.7 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ 2.นางสาวสุภาพ ดำดิน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.7 ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี 3.นายพิสิฐ เสริมทรง อายุ42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.2 ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี 4.นางสาวคนึงรัตน์ หาญกำแพง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.5ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม และ 5.นางสาวประคอง รัตนประทุม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ม.7 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ  โดยทั้ง 5 คน ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย หรือด่านตรวจภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน 5 กฎ4701 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน เงินสด จำนวน 115,000 บาท สร้อยคอคล้ายทองคำ จำนวน 2 เส้น แหวนคล้ายทองคำ จำนวน 2 วง พระเครื่องหุ้มกรอบคล้ายทองคำ จำนวน 1 องค์ และเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จำนวน 26 รายการ

อย่างไรก็ตามขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ได้มีผู้ต้องหาอีกจำนวนหนึ่งที่ยังตระเวนเอาทองปลอมไปจำนำตามร้านทองในพื้นที่กมลา หลบหนีไปได้ จนกระทั่งเมื่อช่วงเที่ยววันที่ 4 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา แก๊งจำนำทองปลอมได้อีก 1 คน คือ นายอาทิตย์ กองจร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345/43 ม.14 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยจับกุมได้ขณะที่นายอาทิตย์ กำลังเดินเข้าไปขอชาร์ตแบตฯโทรศัพท์มือถือ ที่สถานีตรวจ เนื่องจากแบตฯหมด ทำให้ไม่สามารถติดต่อเพื่อนร่วมแก๊งได้ แต่ขณะนั้นผู้เสียหายซึ่งเคยถูกนายอาทิตย์ นำทองปลอมไปจำนำ อยู่ที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความในคดีอื่น เห็นและจำได้จึงชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม

 

ขณะที่  พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์  รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา คือตั้งแต่เดือน เม.ย. – ต้นเดือน มิ.ย.ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านทองหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ได้มีคนร้ายนำทองปลอมมา จำนำขายฝากไว้กับร้านทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งออกตระเวนก่อเหตุในหลายจังหวัด รวมทั้งพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต และพื้นที่ใกล้เคียง จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุนำทองปลอม มาตระเวนจำนำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จริง โดยวันที่ 30 พ.ค.60 ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้ มารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ และและเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตกับ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน 5 กฎ 4701 กรุงเทพฯ มีนายพิสิฐ เสริมทรง เป็นผู้ขับขี่

โดยทั้งหมดเดินทางถึงภูเก็ตเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ในเวลาประมาณ 12.00 น. และ ได้ตระเวนนำทองปลอมไปจำนำตามร้านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะแบ่งหน้าที่กันทำ นางสาวสุภาพ ดำดิน และ นายพิสิฐ เสริมทรง เป็นผู้จัดหาซื้อทองรูปพรรณปลอมมาจากนายโจ ไม่ทราบชื่อสกุลจริงในพื้นที่กทม. ราคาบาทละ 12,000 บาท หลังจากนั้นแบ่งทองให้ลูกทีมนำทองปลอมไปจำนำยังร้านต่างๆ ก่อนลงมือก่อเหตุ นายพิสิษฐ จะเป็นคนขับรถตะเวนหาร้านทองเป้าหมายเมื่อเจอร้านเป้าหมาย ก็ให้ลูกทีมนำทองเข้าไปจำนำ

 

เมื่อได้เงินจากการขายฝากจะนำเงินมามอบให้กับ นางสาวสุภาพ เป็นผู้เก็บไว้ และ หลังจากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการขายฝากมาแบ่งกัน โดยผู้ที่เอาทองรูปพรรณปลอมลงไปขายจะได้ส่วนแบ่งจากน้ำหนักทองคำ 1 บาท ได้ส่วนแบ่ง 1,000 บาท  ซึ่งตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.- 3 มิ.ย.60 กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้ร่วมกันก่อเหตุนำทองไปจำนำที่ ร้านทอง ห้างทองทิพย์ สาขา 3 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จำนวนเงินที่ได้ 70,000 บาท

ร้านทอง ห้างทองทิพย์ สาขา 2 ถ.พังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวนเงินที่ 51,000 บาท ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 1 ถนนมนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวนเงินที่ 51,000 บาท ห้างทองใบหยกเจมส์ ต.กมลา อ.กะทู้ ห้างทองกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จำนวนเงินที่ได้ 32,000 บาท และห้างทองในเขตพื้นที่ ต.ฉลอง จำนวนเงินที่ได้ 34,000 บาท รวมเงินที่ได้จากการก่อเหตุทั้งหมด ประมาณ 270,000 บาท

 

ทั้งนี้จากการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.-27 พ.ค.ยังมีผู้ต้องหาที่มาก่อเหตุอีก 3 คน   3 คน  คือ น.ส.อุไรวรรณ สะเอียบคง อายุ 41ปี ชาว จ.นครราชสีมา นายวัชรบดินทร์ วัชโรสินทร์ อายุ 23 ปี ชาว จ.สกลนคร และ นายอานนท์ ปินวงศ์วาน อายุ 42 ปี กรุงเทพฯ ได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ จำนวนหลายครั้ง เช่น ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 1 ถ.มนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 26 ครั้ง รวมเป็นเงินที่ได้จากการขายฝาก 1,311,500 บาท ที่ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 2 ถ.พังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 22 ครั้ง รวมเป็นเงินที่ได้รับจากการขายฝาก 1,293,000 บาท และที่ร้านทองห้างทองทิพย์ สาขา 3 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ รวมเป็นเงินที่ได้รับจากการขายฝาก ประมาณ 800,000 บาท รวมเงินที่ได้จากการก่อเหตุทั้งหมด ประมาณ 3,674,500 บาท

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนั้นทราบว่า น.ส.อุไรวรรณ สะเอียบคง อายุ 41 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ได้ถูกจับกุมแล้วที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนที่เหลืออีก 2 คน ยังจับกุมไม่ได้