ผัวถูกจับคดียาเสพติดส่งไม้ต่อเมีย ตร.ภูเก็ต ล่อซื้อแต่ยังจับไม่ได้

โพสเมื่อ : Monday, September 18th, 2017 : 2.32 pm

พ่อค้ายาเสพติดถูกจับยังไม่วายส่งไม้ต่อให้เมียขาย ตร.ชุดยาเสพติด สืบสวน จ.ภูเก็ตวางแผนล่อซื้อ แต่สุดท้ายได้แค่ตัวกลาง พร้อมของกลางยาบ้า 36,400 เม็ด เตรียมออกหมายจับ พบเป็นเครือขายพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในภาคใต้ที่เคยประกาศศักดาใครก็จับไม่ได้ เพราะ ดูแล ตร.ทุกพื้นที่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ สว.ฝอ.1 ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญ คือ นางสาวสาคร หรือ แหม่ม สร้อยทอง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ซ.1 ถ.หลังโรงเรียนคลองภาษี ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมของกลาง ยาบ้า 36,400 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มูลค่าประมาณ 910,000 บาท โดยาสมารถจับกุมได้ที่บริเวณ แฟลตการเคหะเอื้ออาทร ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต

 

พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงการการจับกุมในครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ สว.ฝอ.1 ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้จับกุมตัว นายเอกชัย หรือ ตั้ม สวนยา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 ม.6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาไอซ์ ประมาณ 70 กรัม แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

ซึ่งในชั้นจับกุม นายเอกชัยฯ รับสารภาพว่า ได้รับยาเสพติดมาจากเครือข่ายของ นางสาวสมหญิง หรือ จ๊ะหญิง ปูเงิน  ซึ่งเป็นภรรยาของนายเอกชัย หรือ คอเล็ต เอ็มยูเด็น ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต จับกุมไปก่อนไปก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จึงได้สืบสวนขยายผลการจับกุม โดยการติดต่อขอซื้อยาบ้าจาก นางสาวสมหญิงฯ 400 เม็ด แต่นางสาวสมหญิงฯแจ้งว่า ยาบ้ายังมาไม่ถึงจังหวัดภูเก็ต และให้รอไปก่อน เมื่อได้รับข้อมูลดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ฯจึงรายงานให้ตนทราบและสั่งการให้จับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ต่อมาเวลา 19.45 น. ของวันที่ 15 ก.ย.60 นางสาวสมหญิงฯ ได้ติดต่อมาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งแฝงตัวเป็นสายลับผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ว่า พร้อมที่จะส่งยาบ้าให้แล้ว ตกลงนัดหมายกันที่บริเวณ แฟลตการเคหะเอื้ออาทร ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยให้นางสาวสาคร หรือ แหม่ม สร้อยทอง เป็นผู้นำยาบ้ามาส่งให้ โดยได้ตกลงส่งกันในวันที่ 16 ก.ย.60 จากนั้นวันที่ 16 ก.ย.60 ทางสายลับจึงได้ติดต่อไปยัง นางสาวสาครฯ เพื่อมารับยาบ้าตามสถานที่ที่ได้มีการตกลงกันไว้ เมื่อมาถึงแฟลตการเคหะเอื้ออาทร ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมและสามารถยึดยาบ้าได้ในที่สุด

จากการสอบถาม นางสาวสาครฯ รับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย.60 ที่ผ่านมา นางสาวสมหญิงฯ ได้ติดต่อให้ตนไปรับยาบ้าจากเครือข่าย นางสาวสมหญิงที่จังหวัดตรัง เพื่อนำมาให้นางสาวสมหญิงฯ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้ค่าจ้าง 5,000 บาท หลังจากตนนำยาบ้ามาจากจังหวัดตรังมาถึงภูเก็ต ได้นำยาบ้าไปซ่อนไว้ที่ แฟลตการเคหะเอื้ออาทร ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ตเพื่อรอส่งมอบให้นางสาวสมหญิง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนล่อซื้อจับกุมเสียก่อน ส่วน นางสาวสมหญิงฯ หลบหนีไปได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าว มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่พ.ต.ท.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ สว.ฝอ.1 ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายเอกชัย หรือ คอเล็ต เอ็มยูเด็น และถูกนำเดินคดี ก็ได้ถ่ายทอดทายาทค้ายาเสพติดให้กับภรรยา โดยให้เป็นผู้ดูและและประสานกับเครือข่ายยาเสพติดเพื่อนำยามาขายให้กับลูกค้าในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง สำหรับเครือข่ายยาเสพติดรายดังกล่าว เคยคุยและประกาศกับเครือข่ายยาเสพติด ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ว่าถ้าใครอยู่ในเครือข่ายของตนจะไม่ถูกจับ เพราะดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ มีคนหนุนหลังดี

 

พล.ต.ต.ธีระพล ยังได้กล่าวอีกว่า ในกรณีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดตรังพูดนั้นไม่เป็นความจริง การจับกุมรายล่าสุดก็เป็นเครือข่ายเดียวกับเครือข่ายยาเสพติดจากจังหวัดตรัง และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมต่อไป สำหรับกรณีนี้นางสมหญิง ทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมออกหมายจับโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามในการกวาดล้างยาเสพติดและการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงระหว่าง 1 -15  ก.ย. พบว่าสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดจำนวน 170 ราย อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 13 ราย สำหรับยาเสพติดที่จับกุมได้ส่วนใหญ่เป็นยาบ้า พืชกระท่อม น้ำต้มกระท่อม ขณะที่อาวุธปืนนั้นได้มาจากกลุ่มค้ายาเสพติด และวัยรุ่นที่ผลิตปืนขึ้นมาเอง