ผลตรวจเลือดคนขับเรือชนโขดหินออกแล้ว พบสาร  “แอมเฟตามีน”  

โพสเมื่อ : Monday, January 1st, 2024 : 1.21 pm

ผลตรวจเลือดคนขับเรือ ชนโขดหินเกาะไม้ท่อนออกแล้ว  พบสารเสพติด กลุ่ม  “แอมเฟตามีน”  ขณะนักท่องเที่ยว – คนขับเรือ เด็ก ยังบาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย ส่วนสาเหตุเรือชนเชื่อเกิดจากตน รอสอบสวนละเอียดอีกครั้ง ด้านจังหวัด – เจ้าท่าฯ – สาธารณสุข ลงตรวจหาสารเสพติดคนขับเรือ ล้อมคอก

 

จากกรณีเกิดเหตุเรืออภิรักษ์ 89 ซึ่งเป็นเรือเช่าเหมาลำ พานักท่องเที่ยวจำนวน 7 คน พร้อมด้วยกับตัน และ เด็กเรือ รวม 9 คน ออกจากชายหาดอ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต เพื่อไปเที่ยวเกาะพีพี และระหว่างเดินทางกลับอ่าวฉลองเรือเสียหลักชหน้าผาเกาะไม้ท่อน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย และ มีผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 5 ขวบ เสียชีวิต 1 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ธ.ค. 66

ล่าสุดวันนี้ ( 1 ม.ค.67 ) ที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย  นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต  นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายทิวัตถ์ สีดอกบวบ รองนายกองค์การบริหารส่วนขังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง  ลงพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เพื่อตรวจหาสารเสพติด ในส่วนคนขับเรือและพนักงานในเรือ ที่พานักท่องเที่ยวเดินทางออกจากท่าเทียบเรือ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากการตรวจสอบเบื้อต้นไม่พบพนักงานขับเรือมีสารเสพติด

อย่างไรก็ตาม นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงความคืบหน้า การดูแลรักษานักท่องเที่ยว รวมทั้งคนขับเรือ และ นายท้ายเรือ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือสปีดโบ๊ตชนเกาะไม้ท่อนว่า ล่าสุดจากการติดตามอาการพบว่าในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้มี 8 ราย และ เสียชีวิต 1 รายเป็นเด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 5 ขวบ  ในจำนวน 8 ราย พบว่าขณะนี้มีอาการสาหัสจำนวน 5 ราย เป็นนักท่องเที่ยว 3 ราย คนขับเรือ และ เด็กท้ายเรือ รวม 2 ราย  ซึ่งขณะนี้ในส่วนของผู้บาดเจ็บสาหัสได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแล้ว

ซึ่งในส่วนของคนขับเรือนั้นได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหลายใจ และมีมีการผ่าตัดในวันนี้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจหาสารเสพติดในส่วนของคนขับเรือแล้ว พบว่า มีสาร “แอมเฟตามีน” ซึ่งเป็นสารเสพติด  แต่ยังต้องตรวจอย่างละเอียดว่าเป็นกลุ่มใหน ในร่างกาย  ส่วนเด็กท้ายเรือมีการตรวจแล้วเช่นกัน แต่ผลยังไม่ออก สำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้ถือว่ารุนแรง หลังจากนี้ก็จะต้องมีการตรวจสอบหาสาเหตุเชิงลึกต่อไป และหาวิธีในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ขณะที่ นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต  กล่าวว่า เรือลำที่เกิดเหตุเป็นเรือส่วนบุคคล นักท่องเที่ยวเช่าเหมาลำออกจากชายหาดอ่าวฉลอง โดย ไม่ผ่านระบบ ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวรัสเซีย ระหว่าวเดินทางกลับก็ได้เกิดเหตุเรือพุ่งเข้าชนเกาะไม้ท่อน ซึ่งขณะนี้สาเหตุยังไม่ชัดเจน จากการสอบถามนักท่องเที่ยวทราบว่าส่วนใหญ่อยู่บริเวณท้ายเรือ รู้ตัวอีกทีก็เรือกำลังพุ่งเข้าไปที่โขดหินแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่า และ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลังฐานได้เข้าตรวจสอบสภาพเรือในเบื้องต้น พบว่าเรือมีการตรวจสภาพมาอย่างต่อเนื่อง และ พร้อมใช้งาน ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ การเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ในเบื้องต้นคิด ว่า สาเหตุมาจากคนขับเรือ ไม่ใช่ตัวเรือ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอึกครั้ง ซึ่งคาดว่าเรือลำนี้น่าจะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ทำให้มีการกระแทกอย่างแรง  ส่วนเรื่องคดีนั้น ทางเจ้าท่าฯ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการสอบสวน และสอบปากคำคนขับเรือ เด็กเรือ และ นักท่องเที่ยวอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินดคีตามกฎหมาย แต่ในเบื้องต้นจะต้องเร่งเยียวยาในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน

 

นายณชพงศ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า  เรือลำที่เกิดเหตุ เป็นเรื่องที่ออกจากชายหาด ซึ่งถือว่าเป็นจุดบอดอย่างหนึ่ง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ทั่วถึง การออกเรือก็ไม่ผ่านระบบ ซึ่งเรื่องนี้ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ได้มีการหารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในการแก้ไขปัญหา ให้เรือที่จอดอยู่บริเวณชายหาด ไปจอดในจุดจอดเรือที่กำหนด ที่ทางอบจ.กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และ ต่อไปเรือทุกลำที่จะออกจากท่าเรือจะต้องดำเนินการผ่านศูนย์ Smart Pier ท่าเรืออัจฉริยะ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยให้ทุกคนผ่าน Smart Pier ต่อไปถ้าใครไม่เข้าระบบก็ต้องกำหนดบทลงโทษ

ส่วนมาตรการในการป้องกันนั้น หลังจากนี้จะมีการ ตรวจหาสารเสพติดในส่วนของคนประจำเรือ และคนขับเรืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของสำนักงานเจ้าท่าฯนั้นไม่มีอำนาจในการตรวจหาสารเสพติด แต่จะมีการขอความร่วมมือในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการในการตรวจสอบ รวมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการเองด้วย และ หลังจากนี้ก็จะมีการทบทวนมาตรการในการตรวจสอบเรื่องของสารเสพติดในส่วนของคนขับเรือ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง ซึ่งจะมีการดำเนินการทุกท่าเรือ