ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง จ.ภูเก็ต แหว่งกว่า 1 ไร่ อธิบดีสั่งทำแนวเขตด่วน

โพสเมื่อ : Wednesday, May 23rd, 2018 : 4.34 pm

แนวป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง จ.ภูเก็ต แหว่งไปไหน 1 ไร่เศษ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สั่งกั้นเขตให้ชัด ต้องเสร็จภายใน 2 อาทิตย์ ป้องกันการบุกรุกทำลาย  เร่งจัดโครงการปลูกป่าทดแทน ระบุมีทั้งฆ่า ถอน ส่วนไอ้โม่งเป็นใครยังไม่ทราบ

จากกรณีกลุ่มกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนอ่าวกุ้ง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสภาพความสมบูรณ์ของป่าชายเลน และ แนวปะการังในพื้นที่บ้านอ่าวกุ้ง หลังบริษัทเอกชน มีแผนที่จะพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์  แต่มีพื้นที่ ทิศเหนือ ติดต่อกับอ่าวกุ้ง ทิศตะวันออก ติดกับพื้นที่ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง ทิศตะวันตก ติดต่อกับพื้นที่บ่อเลี้ยงกุ้งและคลองอ่าวกุ้ง เนื่องจากชาวบ้านมีความเป็นห่วงผลกระทบ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะการขุดร่องน้ำเพื่อให้เรือขนาดใหญ่เข้าไปจอดในมารีน่าได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด ทางคณะกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภูเก็ต ได้นำปัญหาเข้าสู่การหารือ ในการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 2 / 2561 ที่มี นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุม จัดขึ้นที่โรงแรมภูเก็ต เมอร์ลิน ในวาระ เรื่องเสนอพิจารณา 4.1 การรับฟังความคิดเห็นกรณีร้องเรียนให้มีการบริหารจัดการและอนุรักษ์แนวปะการังบริเวณบ้านอ่าวกุ้ง

โดยมีการนำเสนอข้อมูลทั้งในเรื่องของพื้นที่ป่าชายเลน และ การสำรวจทรัพยากรทางทะเลบริเวณบ้านอ่าวกุ้ง สำหรับในส่วนของพื้นที่ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 (สบทช. 9)  กล่าวว่า  ในส่วนของพื้นที่ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง จากการสำรวจพบว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลนบ้านอุ้งกุ้งเป็นป่าชายเลนตามมาตร 4 ( 1) คือ เป็นทั้งป่าชายเลนตามสภาพ และ ป่าชายเลนตามกฎหมาย รวมทั้งมีการขีดแนวเขตป่าชายเลนตามมติ ครม. ซึ่งการจะขออนุญาตขุด หรือ กระทำการใดๆ จะต้องมีการขอผ่อนผันมติ ค.ร.ม..ก่อน และการขุดก็จะต้องขออนุญาตตามกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก โดยประเด็นดังกล่าวได้มีการทำความเข้าใจกับชาวบ้านไปแล้ว

อย่างไรก็ตามจากสภาพปัจจุบันของพื้นที่ป่าชายเลนโดยเฉพาะจุดที่อยู่หน้าโครงการ ฯ พบว่า มีรอยแหว่งไปประมาณ 1 ไร่เศษ ซึ่งจากการตรวจสอบในแผ่นที่ ก่อนหน้านี้พบว่าแนวป่าชายเลนบริเวณดังกล่าว มีต้นโกงกางขึ้นเต็มบริเวณและเป็นแนวยาวไม่เหมือนสภาพปัจจุบัน ที่มีรอยแหว่งและเป็นช่องว่างขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ทาง สำนักงาน สบทช.9 จัดทำแนวเขตป่าชายเลน และติดป้ายประกาศ ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลาย และแผ้วถางป่าชายเลน ซึ่งการทำแนวเขตและติดป้ายจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์นี้ นอกจากนั้นให้จัดทำโครงการปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ที่ถูกทำลายโดยด่วน ส่วนกรณีใครเป็นคนขุดทำลายแผ้วถางขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวคืนมาแล้วและมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ รวมทั้งนำป้ายไปติดเพื่อประกาศให้ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าชายเลนห้ามีการบุกรุกทำลาย แต่ไม่วายยังมีการทำลายป้ายทิ้ง

ขณะที่ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง ระบุ ว่า ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลนดังกล่าวมากว่า 30 ปี จนได้รับรางวัลธงพระราชทาน เมื่อปี 2545 หลังจากนั้นมีการอนุรักษ์และร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนปลูกป่าชายเลนเพิ่มเติม แต่เมื่อปี 2555 เป็นต้นมาพบว่าป่าชายเลนในบริเวณดังกล่าวก็เริ่มถูกแผ้วถาง ทำลาย ถูกฆ่าด้วยยาฆ่าตอ ถูกถอน จนปัจจุบันพบว่ามีการทำลายไปประมาณ 1 ไรเศษ จนทำให้เกิดสภาพรอยแหว่งขึ้นมา

แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าตรวจยึดพื้นที่และติดป้ายประกาศแต่ก็ยังมีการทำลายอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้แต่ป้ายของทางราชการยังถูกทำลาย แต่ล่าสุดทางสถาบันการศึกษาก็ได้ลงพื้นที่ปลูกป่าชายเลนอีกครั้ง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเหลือรอดอีกเท่าไหร่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำลายป่าชายเลนดังกล่าว เพราะยังหาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดเป็นมาตรการหรือประกาศเป็นเขตคุ้มครองพื้นที่ป่าชายเลนให้ชัดเจน เพื่อรักษาป่าชายเลนให้คงอยู่สืบไป

ขณะที่นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้อยากให้มีการพูดถึงเรื่องของการกำหนดมาตรการในการป้องกันเพราะเชื่อว่าต่อไปปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบ้านอ่าวกุ้ง แต่จะเกิดขึ้นในอีกหลายๆที่ เพราะการพัฒนาเพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางทะเลในจังหวัดภูเก็ตยังมีอีกมาก ถ้าสามารถพัฒนาเป็นเขตคุ้มครองที่ชัดเจนออกมาได้ คนที่จะเข้าไปซื้อที่ดินเพื่อลงทุนทำโครงการอะไรในพื้นที่ที่ติดกับป่าชายเลนก็สามารถใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้ ว่าซื้อแล้วจะสามารถพัฒนาอะไรได้มากน้อยแค่ไหน หรือสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะพื้นที่ป่าชายเลยของภูเก็ตมีครอบคลุมหลายพื้นที่ จึงอยากให้มีการประกาศเขตคุ้มครองที่จัดเจนขึ้นมาซึ่งเรื่องนี้จะนำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง