ปรับแผนแล้วตรวจ”โควิด” ด่านท่าฉัตรไชย หลังทดลองรถติดยาว 

ปรับแผนการตรวจคัดกรอง “โควิด -19”  ด่านตรวจท่าฉัตรไชย หลังทดลองพบปัญหารถติดยาว ระบุการ นำเครื่องเทอโมสแกนระบบอินฟาเรด มาใช้แทน หวังลดระยะเวลาตรวจแก้ปัญหาอำนวยความสะดวกประชาชน แนะเผื่อเวลาเดินทาง

วันนี้ ( 23 มี.ค.) นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจคัดกรอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด -19  จุดตรวจทางบกที่ด่านตรวจท่าฉัตรชัย อ. ถลาง จ. ภูเก็ต ซึ่งได้เริ่มทดลองดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา  ว่า  จากการทดลองดำเนินการคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย พบว่ามีการดำเนินการตรวจไปจำนวน 8,000 คัน คนกว่า 10,000 คน ใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ แบบพกพา จำนวน 10 เครื่อง  ผลการปฏิบัติพบว่ารถที่ผ่านด่านตรวจดังกล่าวติดยาว

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการทดลอง พบว่ามีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ทางจังหวัดจึงได้ปรับแผนในการดำเนินการที่บริเวณจุดตรวจดังกล่าว โดยการนำเครื่องเทอโมสแกน ระบบ อินฟาเรด มาใช้ ในการตรวจจับคนที่ผ่านด่านตรวจท่าฉัตรไชย โดยระยะแรกมีการติดตั้งบริเวณขาเข้าจำนวน 2 เครื่อง เพื่อที่ให้การตรวจทำได้แม่นยำที่สุด และเพื่อแก้ปัญหารถติด โดยทางเจ้าหน้าที่จะจัดที่จอดรถไว้รองรับสำหรับการตรวจคัดกรอง อย่างไรก็ตามการตรวจทุกคนจะต้องลงจากรถเพื่อเดินผ่านเครื่องเทอโมสแกนแบบอินฟาเรด ส่วนคนขับรถจะต้องจับรถไปจอดในจุดที่จัดไว้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องติดตามตัวตรวจสอบ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  กล่าวว่า  ในการตรวจคัดกรองหากพบว่าคนขับ หรือ ผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถมีไข้สูง 37.3 องศา ทางภาครัฐก็มีแผนในการจัด หากป่วยจะนำตัวขึ้นรถพยายาบาลฉุกเฉินไปส่งที่โรงพยาบาลถลาง หากเป็นคนขับรถส่วนตัวและคนที่มาด้วยไม่สามารขับรถได้ก็จะจัดเจ้าหน้าที่ขับรถให้ ส่วนกรณีคนขับรถโดยสารขนาดใหญ่ ทางขนส่งได้ประสาน ไปยังเจ้าของรถแล้วโดยทุกบริษัทจะจัดคนขับรถและรถสำรองไว้ให้เปลี่ยนรถทันที

อย่างไรก็ตามในส่วนของประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมและเผื่อเวลาในการเดินทาง เพราะจากการตั้งด่านตรวจเข้ม จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางและรถติดเป็นเวลานาน