ประชาชน นักท่องเที่ยวเข้าชมงานถนนสายวัฒนธรรมกะทู้ คึกคัก

โพสเมื่อ : Monday, July 18th, 2016 : 11.04 pm

คืนแรกงานถนนสายวัฒนธรรมกะทู้ ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 18 – 20 ก.ค.59  คึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเที่ยวชมงานเพียบ

24be4bda-a87c-4696-a9c5-341b85a7d90b

เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (18 ก.ค.) ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดโครงการถนนสายวัฒนธรรมกะทู้ ครั้งที่ 8 ซึ่งทางเทศบาลเมืองกะทู้ ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค.2559 นี้

7bde8a11-2219-4359-b27a-3acd15fc8167

โดยมีนายอะฮ์มัด รุซดี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย นางวาง หุ้ย จวน รองกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลาและหัวหน้าสำนักงานกงสุลประจำภูเก็ตตลอดจนคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานเทศบาลเมืองกะทู้ แขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกะทู้และจากพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมงานจำนวนมาก

907e64cd-a7ef-48a3-80c0-3d493e2a65e0

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย ขบวนแห่ทางวัฒนธรรม ขบวนแห่ขนมเต่า ขบวนการแต่งกายชุดพื้นเมืองภูเก็ต รวมถึงการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการย้อนยุคและขบวนรถโบราณ มีการสาธิตทำขนมพื้นเมือง มีเทศกาลไหว้พระอิ่มบุญ ชิมอาหารพื้นเมืองกะทู้ การละเล่นพื้นบ้าน และชมกิจกรรมบนเวทีกลาง การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน และนาฏศิลป์ประยุกต์ ตลอดจนการเดินแบบชุดพื้นเมืองภูเก็ต และเวทีย่อยอีกกว่า 9 เวที จากทุกกิจกรรมที่กล่าวมา จัดขึ้นเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองกะทู้ ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้ และพัฒนาเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “กะทู้เมืองน่าอยู่ อย่างยั่งยืน”

082cc5f4-8e93-4728-95e6-9077cf6aeb32

นายชัยอนันท์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวถึงการจัดงานถนนสายวัฒนธรรมเมืองกะทู้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์สืบสานศิลปะ และวัฒนธรรมของท้องถิ่น เพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของประชาชนในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดเวทีภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้เผยแพร่และเกิดการสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลาย เพื่อสร้างฐานรายได้ใหม่ให้แก่ประเทศ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ศิลปะร่วมสมัย โดยศิลปินร่วมกับภูมิปัญญา ร่วมกันปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาของท้องถิ่น ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม สร้างโอกาสทางธุรกิจ และเพื่อบูรณาการความร่วมมือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ในจังหวัดระหว่างภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น ให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนต่อไป