ปปง.ลงพื้นที่ภูเก็ตตรวจสภาพ – อายัดทรัพย์บริษัทดัง กว่า 4,600 ล้านบาท หลังพบหลีกเลี่ยงภาษี

โพสเมื่อ : Monday, December 24th, 2018 : 7.43 pm

ปปง.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจยึดและอายัดทรัพย์เครือข่ายทัวร์ บริษัทดัง  มูลค่ากว่า 4,600 ล้าน หลังศาลแพ่งตัดสินให้ยึดทรัพย์สิน หลังกรมสรรพากรตรวจสอบพบ หลีกเลี่ยงภาษีเป็นเป็นกว่า 7,000 ล้านบาท

วันนี้ ( 24 ธ.ค.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองเลขาธิการฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. ร่วมกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงศ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่สรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่ศาลแพ่งมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินในรายคดีนายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี กับพวก รวมมูลค่ากว่า 4,600 ล้านบาท

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัทและห้างร้านที่มีพฤติการณ์เกี่ยวพันกับเรื่องภาษีเพื่อลดการผูกขาดและการทำลายภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทย ซึ่งสำนักงาน ปปง.ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร เป็นต้น

เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินในรายคดี นายธงชัย รุ่งโรจรังสี กับพวก หรือ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ในครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำ ฟ.158/2561 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 และคดีหมายเลขดำที่ ฟ.84/ 2561 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ซึ่งมีคำสั่งให้เลขาธิการ ปปง.เป็นผู้ดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว ประกอบด้วย ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดทั้ง ภูเก็ต ชลบุรี นนทบุรี นครปฐม ซึ่งมีทั้ง อาคารชุด โรงแรมหรูในจังหวัดชลบุรี บริษัทจำหน่ายเครื่องประดับ และ อัญมณีในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 97 รายการ มูลค่า 2,964 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร จำนวน 30 รายการ มูลค่า 136 ล้านบาท และสลากออมสิน จำนวน 2 รายการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดทรัพย์ ทั้งสิ้น 4,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ในคดีดังกล่าว สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานจากกรมสรรพากร ให้ดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดในเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งกรมสรรพากรได้ตรวจสอบการชำระภาษีของบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 -2559 พบว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษีเป็นวงเงินกว่า 7,000 ล้านบาท อันเป็นความผิดตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งตามมาตรา37 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรให้ถือว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวต่อว่า การลงมาสืบสภาพทรัพย์ที่ถูกอายึดไว้ในวันนี้ ว่า และมีทรัพย์สินอะไร ที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ ซึ่งการตรวจสภาพทรัพย์ที่ถูกอายัดในวันนี้ เป็นที่น่าพอใจ ทรัพย์ยังอยู่ในสภาพคงเดิมทั้งหมด และ ในขณะนี้ผู้ประกอบการยังสามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติ เนื่องจากตามคำสั่งศาลแพ่งให้ยึดอายัดทรัพย์เฉพาะที่ดินและอาคารเท่านั้น ส่วนสินค้ายังสามารถจำหน่ายได้เหมือนเดิม และ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ ปปง.จะเข้ามาบริหารจัดการทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เช่น ในเรื่องของสัญญาเช่าว่าได้ดำเนินการกับใครไว้บ้าง เป็นต้น

ด้านพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในวันนี้จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และจะเดินหน้าดำเนินการกับทุกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้คนภูเก็ตมีที่ยืนในการประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว และหลังจากที่รัฐบาลได้ออกนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องของการฟรีวีซ่า มีการกู้เรื่อฟินิกซ์ ปรากฏว่าการท่องเที่ยวเริ่มมีขึ้นเป็นลำดับ และคาดว่าในช่วงปีใหม่นี้ การท่องเที่ยวน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คนจีนได้เริ่มกลับมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตและประเทศไทยแล้ว