“นิกรมารีน กรุ๊ป”  จากเจ็ตสกีเพียงแค่ลำเดียวก้าวมาอยู่แถวหน้าวงการท่องเที่ยวทางเรือได้อย่างไร

กว่าจะมาเป็น “นิกรมารีน กรุ๊ป”  จากเจ็ตสกีเพียงลำเดียว ใช้เวลากว่า 30 ปี ฝ่าฟันทุกอุปสรรค จนก้าวมาถึงวันนี้ ด้วยบริการท่องเที่ยวทางทะเลแบบครบวงจรเน้นรักษามาตรฐานบริการ – ความปลอดภัย สร้างความพึงพอใจให้นักท่องเที่ยว

“นิกรมารีน กรุ๊ป” ถือเป็นผู้ให้บริการท่องเที่ยวทางเรือแบบครบวงจรเจ้าแรกๆ ของวงการท่องเที่ยวทางทะเลภูเก็ต ที่มีเรือที่ให้บริการท่องเที่ยวครอบคลุมทุกประเภทกิจกรรม ว่าเป็นเล่นน้ำ ตกปลา ปาร์ตี้ ซีวอกเกอร์ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ “นิกรมารีน กรุ๊ป” ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรมาบ้าง

นายนิกร – นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ผู้บริหาร นิกรมารีน กรุ๊ป จำกัด ว่า นิกรมารีน กรุ๊ป ในวันนี้ เริ่มต้นจากการให้บริการเจ็ตสกีเพียงลำเดียว ที่เกาะเฮ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว หลังจากการให้บริการเจ็ตสกีได้รับความนิยมก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนเจ็ตสกีขึ้น พร้อมกับได้ลงทุนต่อเรือเร็ว หรือเรือสปีดโบ๊ต อีก 1 ลำ ให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปเกาะเฮ ซึ่งตอนนั้นได้ทำคอนแทกต์กับบริษัทัวร์ญี่ปุ่น เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนมาก และชื่นชอบที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะเฮ

“ตอนนั้นเราขนญี่ปุ่นไปเกาะเฮ วันละ 200 – 300 คน ธุรกิจค่อยๆ เติบโตขึ้น ได้ลงทุนต่อเรือสปีดโบ๊ตเพิ่ม และเห็นว่าการทำธุรกิจให้เช่าเจ็ตสกี มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเจ็ตสกีชนกันบ้าง นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บบ้าง ทำให้มีปัญหาตามมาเรื่อยๆ จึงตัดสินใจเลิกการให้บริการเจ็ตสกีที่เกาะเฮ พร้อมกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ” และหลังมาทำเรือให้บริการนักท่องเที่ยวแทน

ผู้บริหารนิกรมารีน กรุ๊ป กล่าวต่อว่า การท่องเที่ยวทางทะเลของภูเก็ตเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะเฮ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งจีน รัสเชีย เกาหลี และชาติอื่นๆ นิกรมารีน ซึ่งทำทัวร์ท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริปที่เกาะเฮ จึงได้ได้เพิ่มเรือสปีดโบ๊ตขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว และ เพิ่มความหลากหลายของการบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเรือสปีดโบ๊ตเพียงอย่างเดียว ก็ได้เพิ่มเรือตกปลา เรือยอชต์คาตามารัน เพื่อรับลูกค้าได้ทุกชาติและทุกกลุ่ม และล่าสุดได้เปิดตัวเรือยอชต์คาตามารัน “ปาปะกัง” ลำล่าสุดไปเมื่อเร็วๆ นี้

ปัจจุบัน นิกรมารีน กรุ๊ป สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทท่องเที่ยวทางเรือชั้นนำของภูเก็ต มีบริการท่องเที่ยวทางทะเลแบบครบวงจร ให้บริการใน 2 เส้น ทางหลัก คือ เกาะเฮ และเกาะราชาใหญ่ พร้อมร้านอาหารที่เกาะเฮ กิจกรรมทางน้ำ มีเรือสปีดโบ๊ตกว่า 50 ลำ เรือยอชต์คาตามารัน 5 ลำ เรือตกปลาอีก 10 ลำ เรือซีวอล์กเกอร์ อีก 2 ลำ

แต่กว่าที่ นิกรมารีน จะเดินมาถึงวันนี้ได้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมากมาย และมามาทุกวิกฤติ ไม่ว่าจะวิกฤติต้มยำกุ้ง สึนามิ การระบาดของโรคซา ไข้หวัดนก วิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมทั้งเหตุเรือล่มล่าสุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งสิ้น ในวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ได้ฝ่าฟันมาด้วยการทำตลาด ทำความเข้าใจกับเอเยนต์ทัวร์ หาตลาดกลุ่มใหม่ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบ แต่โชคดีตรงที่เอเย่นต์ทัวร์เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ประกอบการนำเที่ยวทางทะเล ที่จะต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ

ผู้บริหาร นิกรมารีน ยังได้กล่าวต่อไปว่า ว่าว่าขณะนี้ นิกรมารีนจะก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของการให้บริการท่องเที่ยวทางทะเลแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่นิกรมารีนไม่เคยทำ คือ การแข่งขันกันลดราคามีว่าจะเกิดวิกฤติแค่ไหนก็ตาม  แต่แต่สิ่งที่เราทำเพื่อให้ก้าวพ้นปัญหา คือเรื่องของการบริการที่ดี และความปลอดภัย เป็นสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเกิดความประทับใจมากที่สุด และกลับมาใช้บริการของนิกรมารีนอีกในครั้งต่อไปที่มาเยือนเกาะภูเก็ต