“นายกเรวัต” พร้อมเดินหน้าสร้าง Landmark ใหม่ให้ภูเก็ต “ระเบียงกระจก หาดสุรินทร์” หากไม่มีอะไรผิดพลาดได้ตอกเสาเข็มแน่น ธ.ค.นี้

โพสเมื่อ : Thursday, July 21st, 2022 : 1.25 pm

 

อบจ.ภูเก็ต เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น โครงการออกแบบระเบียงกระจก หาดสุรินทร์ Landmark ใหม่ ดึงคนมาเที่ยว ชาวบ้านตอบรับดี เห็นด้วย สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ด้าน “เรวัต อารีรอบ” นายก อบจ. ลั่น พร้อมเดินหน้าเต็มที่ ดันให้เกิดให้ได้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าจะสามารถตอกเสาเข็มได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ใช้เงินสะสมลงทุนตามแบบ 139 ล้านบาท เพื่อมอบเป็นของขวัญให้คนภูเก็ตและพี่น้องชาวเชิงทะเลทุกคน

 

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ณ โรงแรมอังสนา ลากูน่า ภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และ บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด จัดประชุม เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียโครงการจ้างออกแบบระเบียงกระจกหาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ครั้งที่1 โดยมี นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการรับฟังความคิดเห็น และมี นายมาโนช พันธุ์ฉลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล นายพงษ์สุระ คู่พงศกร เลขานุการนายก อบจ.ภูเก็ต นายสิน คหาปนะ สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต อำเภอถลาง เขต 3 หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรชุมชน และประชาชนในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล เข้าร่วม

 

เพื่อนนำเสนอรูปแบบเบื้องต้นของโครงการบบระเบียงกระจก และรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งหน่วยงานในระดับจังหวัด หน่วยงานในระดับอำเภอ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปปรับปรุงการออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่ และตอบสนองส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างจุดหมายตา รวมทั้งเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ตรวมถึงความต้องการและปัญหาของประชาชนในพื้นที่เชิงทะเลต่อโครงการดังกล่าว

 

นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องสร้างระเบียงกระจกที่หาดสุรินทร์ ว่า เพื่อต้องการสร้างจุดเด่น หรือ  New Landmark ให้เกิดขึ้นที่บริเวณหาดสุรินทร์ และให้เป็นแม่เหล็กในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อบจ.ภูเก็ตจึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบระเบียงกระจกที่หาดสุรินทร์ และวันนี้จึงได้นำแบบในเบื้องต้นมานำเสนอและรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปปรับปรุงแบบต่อไป

 

 

“จากแบบที่ได้เห็นพร้อมกับพี่น้องประชาชนชาวเชิงทะเลในวันนี้ เป็นแบบที่มีความสวยงามสอดรับกับสภาพพื้นที่ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จเชื่อว่าจะเป็น Landmark ที่สวยงาม ที่สามารถดึงดูดคนมาเที่ยวได้อย่างแน่นอน และหากไม่มีอะไรผิดพลาดตามขั้นตอนที่วางไว้ โดยการออกแบบจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน พ.ย.นี้ และทางสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลก็ได้ผ่านการเห็นชอบให้ อบจ.ใช้พื้นที่ที่หาดสุรินทร์ จำนวน 9 ไร่ แล้วด้วย หลังจากนั้นทาง อบจ.จะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้าง ภายในเดือน ธ.ค.2565 นี้ จะสามารถตอกเสาเข็มเดินหน้าโครงการนี้ได้เลย และคาดว่าหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 18 เดือน หาดสุรินทร์จะมี  New Landmark ที่สวยงาม ” นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวและว่า

 

สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างนั้น ตามแบบที่บริษัทที่ปรึกษานำเสนอนั้น อยู่ที่ประมาณ 139 ล้านบาท ซึ่ง อบจ.สามารถใช้เงินสะสม มาดำเนินการในส่วนนี้ได้ เพราะเป็นโครงการที่เกิดเพื่อประโยชน์กับประชาชนชาวภูเก็ตโดยรวม

 

บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบรายละเอียดโครงการได้นำเสนอรูปแบบเบื้องต้นของกระเบียงกระจก หาดสุรินทร์ ว่า ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 9 ไร่ เป็นโครงการที่เชื่อมต่อกับโครงการที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองจะดำเนินการในการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ เป็นการออกแบบภายใต้แนวคิดหลัก คือท้องทะเลและวิถีชีวิตชาวภูเก็ต โดยมุ่งเน้นให้พื้นที่ออกแบบเป็นพื้นที่ของเมืองและแหล่งท่องเที่ยว โดยนำท้องทะเลกับอัตลักษณ์ของพื้นที่และวิถีชุมชนของชาวภูเก็ตเข้ามาผสมผสานเพื่อให้เป็น และคาดว่าหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 18 เดือน หาดสุรินทร์จะมี  New Landmark ที่สวยงาม และเป็นจุดปลายในการเดินทาง

โดยภายในโครงการจะประกอบไปด้วย อาคารสำนักงาน จุดชมวิวที่ 1 ซึ่งเป็นทางเดินกระจกยื่นออกไปจากหน้าผาประมาณ 40 เมตร สูงจากระดับพื้นทราย 50 เมตร สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ 360 องศา หอคอยชมวิว ลานกิจกรรม จุดชมวิวจุดที่ 2 ยื่นออกไปจากหน้าผาประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร ทางเดินออกไปจะเป็นกระจก มองวิวทะเลได้สวยงาม 360 องศา และโดยเฉพาะในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตกน้ำจะสวยงามมากๆ โดยระยะทางทั้งหมดจากจุดสำนักงานไปยังจุดชมวิวที่ 2 ประมาณ 20 เมตร ซึ่งในระยะทางนี้ จะถูกออกแบบให้เป็นทางเดินกระจกสลับกับทางเดินพื้น ประมาณการราคาค่าก่อสร้างทั้งโครงการไว้ที่ 139.5 ล้านบาท

 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนที่เข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น ต่างเห็นด้วยกับรูปแบบที่นำเสนอ และเห็นด้วยที่จะให้มีการสร้าง Landmark ใหม่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อทำให้พื้นที่เชิงทะเลสวยงามขึ้นเป็นจุดดึงดูดคนมาเที่ยวเพิ่ม แต่ทั้งนี้การออกแบบและการก่อสร้างโครงการจะต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและความสวยงามของธรรมชาติหายไป