นายกฯฝากย้ำขอทุกหน่วยใช้เหตุการณ์เรือชนกลางทะเลเป็นบทเรียนอย่าเกิดซ้ำ

โพสเมื่อ : Tuesday, June 14th, 2016 : 11.41 am

ศูนย์ข่าวภูเก็ต – รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยวเหยื่อเหตุเรือ สปีดโบต ชนกลางทะเล ระบุนายกฯ ให้ทุกหน่วยงานใช้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียน ร่วมวางมาตรการป้องกัน ยกมาตรการป้องกันให้เข้มข้น
3
เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวอโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต และ คณะ เดินทางเข้าเยี่ยมนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเรือสปีดโบตชนกันกลางทะเลอันดามัน บริเวณกองหินมูสัง ทางด้านใต้ของเกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต โรงพยาบาล อบจ.ภุเก็ต และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต หลังเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน

นางกอบกาญจน์ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยม อาการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยว ว่า ตนเองเป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าเยี่ยมอาการป่วยของนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุเรือชนกัน โดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และได้มอบนโยบายเน้นย้ำให้ทุกหน่วยต้องปฏิบัติและให้ความสำคัญกับเรื่องของการดูแลนักท่องเที่ยวที่ยังบาดเจ็บอยู่ให้หายโดยเร็ว ส่วนที่สอง คือ เรื่องมาตรการการป้องกันไม่ให้มีอุบัติเหตุลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นอีกในอนาคต ได้มีการพูดคุยในเบื้องต้นไปแล้วกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง เจ้าท่า และ ตำรวจ ว่า ควรทำอย่างไร ให้เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นบทเรียน และจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อทำให้การท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำมีความปลอดภัยมากขึ้น
2
รวมถึงการยกระดับมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่ใช้อยู่แล้วให้มีความเข้มข้นขึ้น เช่น ควรมีมาตรการการกำจัดความเร็วของการขับเรือ นอกเหนือจากการขับขี่เรือได้ รวมถึงความสามารถในการการตัดสินใจของคนขับเรือ ความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์ก็อาจต้องมีการทดสอบมากขึ้น กรณีเกิดภาวะคับขัน คนขับเรือจะต้องตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะต้องมีการเรียนรู้ นำไปพัฒนา เพื่อทำให้การท่องเที่ยวของเรามีความปลอดภัยมากขึ้น

อย่างไรก็ตามจากการเข้าเยี่ยมนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ พบว่า ทั้งทีมแพทย์ พยาบาล และโรงพยาบาล ให้การดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ และอาการของนักท่องเที่ยวที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้ง 3 แห่งดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่ต้องนอนรักษาตัวอีกจำนวน 5 ราย