นักลงทุนไทย – จีน จับมือผุด คอนโดหรู Sea Heaven Phuket Naithon ที่หาดในทอน จ.ภูเก็ต  

โพสเมื่อ : Thursday, January 9th, 2020 : 12.27 pm

นักลงทุนคนไทย จับมือนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากประเทศจีน ยึดหัวหาดในทอน จ.ภูเก็ต เปิดโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon ผุดคอนโด มูลค่า กว่า 2,700 ล้านบาท รับนักท่องเที่ยวกลุ่มระดับบน

เมื่อเร็ว ๆ  นี้ โครงการ Sea Heaven Phuket Naithon เปิดตัวโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon ซึ่งคอนโดมิเนียมหรู ตั้งอยู่บริเวณหาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมจัดงาน จัดงาน VIP Party โดยมี นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ผู้ถือหุ้นของบริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด Mr.Shao Bo ประธานบริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด ผู้บริหารโครงการ ซีเฮฟเว่น นายวีระวิทย์ มโนธรรมรักษา รองประธาน บริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด ผู้บริหารโครงการ ซีเฮฟเว่น ร่วมแสดงความยินดี และเปิดตัวโครงการ

พร้อมทั้งมีการลงนามในสัญญาซื้อขายห้องพักของโครงการระหว่างผู้บริหารโครงการทั้ง 2 ฝ่าย กับลูกค้าชาวจีนที่ได้จองห้องพักของโครงการไปแล้วจำนวนหนึ่ง ณ Sales Gallery และจัดงานเลี้ยงฉลอง ณ ร้าน 24 restaurant Naithon ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ เอเยนซี รวมทั้งลูกค้าเข้าร่วม จำนวนมาก

 

นายรังสรรค์ หวังไพฑูรย์ กรรมการบริหาร บริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด กล่าวว่า โครงการ Sea Heaven Phuket Naithon คอนโดมิเนียมหรู บนหาดในทอน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นโครงการที่เกิดจากการร่วมลงทุนระหว่างนักลงทุนไทยและนักลงทุนจีน ในนาม บริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด ผู้บริหารโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon โดยนักลงทุนไทย คือ ทางบริษัท ศิวารมณ์ ซี ภูเก็ต ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเข้ามาลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตัวเมืองภูเก็ต และมองเห็นศักยภาพของภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวระดับโลก จึงได้ตัดสินใจนำที่ดินแปลงนี้ซึ่งซื้อไว้นานแล้ว และเป็นที่ดินอยู่ติดริมทะเลหาดในทอน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รวมทั้งขอเช่าพื้นที่ข้างๆ รวมกันแล้วเนื้อที่ประมาณ 60 กว่าไร่ มาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู ขายให้แก่คนไทยและต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในภูเก็ต

 

โดยโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon นั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 60 ไร่ อยู่ติดหน้าหาดในทอน ซึ่งเป็นชายหาดที่เงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูง อยู่ใกล้สนามบินภูเก็ต ถือเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรกจะพัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 23 ยูนิต ซึ่งอยู่ด้านหน้าของโครงการ เฟสที่ 2 เป็นคอนโดมิเนียม 5 ชั้น จำนวน 252 ห้อง และเฟสที่ 3 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น ซึ่งอยู่ด้านหลังของโครงการ จำนวน 223 ยูนิต ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 29 ตร.ม.จนถึง 70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.8-10 ล้านบาท พร้อมพูลวิลล่าอีก 15 ยูนิต และ อาคารอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งอยู่ตรงกลางของโครงการ มูลค่าโครงการอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท

โดยหลังจากที่ลูกค้าซื้อห้องพักของโครงการแล้ว สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อไว้เพื่อการลงทุน ทางบริษัทจะเช่าต่อจากลูกค้าเพื่อนำมาบริหารให้ โดยให้ผลตอบแทนร้อยละ 7 ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นก็จะแบ่งรายได้ที่เกิดขึ้นในสัดส่วน 60 ต่อ 40 โดยเจ้าของห้องจะได้รับ 60% ส่วนผู้บริหารโครงการได้รับ 40% สำหรับการบริหารโครงการนั้น ทาง Wyndham ซึ่งเป็นเชนบริหารโรงแรมชื่อดังระดับโลกจะเป็นผู้เข้ามาบริหาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่จะตัดสินใจเข้ามาลงทุนในโครงการว่าจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวโครงการมาระยะหนึ่ง พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ด้านบนของเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นชายหาดที่ค่อนข้างจะเงียบสงบเป็นธรรมชาติ มีความเป็นส่วนตัว กลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาพักทางโซนตอนเหนือของเกาะภูเก็ตนั้น จะเป็นกลุ่มบนส่วนใหญ่ โดยลูกค้าที่เข้ามาดูมีทั้งจาก รัสเซีย ยุโรป นิวซีแลนด์ จีน และชาติอื่น ๆ

นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่มาร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดโครงการนี้ ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจชาวจีนและนักธุรกิจชาวไทย ในนามของจังหวัดภูเก็ต มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีการลงทุนในพื้นที่ ทำให้มีการจ้างงานตั้งแต่การก่อสร้าง การจัดซื้อวัสดุ นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการพัฒนาเมืองในบริเวณหาดในทอน ให้มีที่พักอาศัยที่ได้มาตรฐาน มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถให้บริการกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว

ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย รองจากกรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้นต้องขอขอบคุณทางคณะที่ปรึกษาผู้บริหารโครงการ ประธานโครงการที่ได้ลงทุนในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต เป็นโครงการที่สามารถสร้างงานพัฒนาเมืองไปในตัวด้วยและมีการจ้างงานด้านการ การในลำดับต่อไป