ท่าอากาศยานภูเก็ตยังคุมเข้มนักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่น พร้อมหาแนวทางส่งกลับ หลังประกาศปิดเมืองชั่วคราว

โพสเมื่อ : Friday, January 24th, 2020 : 9.01 pm

ท่าอากาศยานภูเก็ตยังเพิ่มความเข้มคัดกรองนักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา พร้อมหามาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางกลับ หลังปิดเมืองชั่วคราว

จากกรณีที่นักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต และไม่สามารถเดินทางกลับเข้าเมืองได้ เนื่องจากทางการจีนประกาศปิดการเข้าออกเมืองดังกล่าวชั่วคราว เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ทางจังหวัดภูเก็ต โดยนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน และท่าอากาศยานภูเก็ตด้วย เพื่อหามาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ก่อนที่จะมีการปิดเมืองชั่วคราว และตกค้างอยู่ที่ จ.ภูเก็ต โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มล่าสุดที่เข้ามาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. จำนวน 2 เที่ยวบิน คือ สายการบินไชน่าเซ้าท์เทิร์น จำนวน 138 คน และสายการบินแอร์เอเชีย 140 คน รวมแล้วไม่เกิน 300 คน

จากการหารือร่วมกัน ได้ข้อสรุปว่า ให้สอบถามความสมัครใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ว่า จะอยู่ท่องเที่ยวต่อ หรือจะเดินทางกลับประเทศ เพื่อที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่น่าจะทราบแล้วว่ามีการปิดเมืองห้ามเที่ยวบินขึ้นลง” ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวและว่า

ดังนั้น คาดว่า ในช่วง 2-3 วันนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงต้องการจะท่องเที่ยวต่อที่จังหวัดภูเก็ต เพราะยังอยู่ในช่วงตรุษจีน แต่หลังจากวันที่ 27 มกราคมไปแล้ว คาดว่าจะมีผู้ที่ต้องการเดินทางกลับ ซึ่งเท่าที่มีการหารือร่วมกันสรุปว่า จะมีการหาเที่ยวบินที่ไปยังเมืองใกล้เคียง เพื่อเขาจะได้เดินทางกลับไปยังอู่ฮั่นต่อไป ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมดูแลอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่”

เรืออากาศตรีธานี กล่าวด้วยว่า จากการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีผู้ผ่านการคัดกรองจำนวนกว่า 4,000 ราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยต้องสงสัยว่าจะมีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด