ทูตแรงงานเมียนมา ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือแรงงานจากเหตุนั่งร้านถล่ม ขอบคุณช่วยเหลือเร็ว

ทูตแรงงานเมียนมา ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือเยียวคนงานประสบ เหตุนั่งร้านถล่มตาย 3 เจ็บ 8 ขอบคุณช่วยเร็ว ขณะที่ด้านคดีความยังไม่แจ้งข้อหาใคร รอผลพิสูจน์หลักฐานหาสาเหตุ

วันนี้ (13 ส.ค.) นาย Kayw Soe wai Labor attaché Myanmar Embassy in Thailand พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือ และ เยียวยาแรงงานชาวเมียนมา ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั่งร้านสร้างอาคารส่วนหน้าของคอนโด ในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเบื้องต้นมีคนงานได้รับบาดเจ็บ 8 คน และ เสียชีวิต 3 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 11 ส.ค.62 ที่ผ่านมา โดยมีสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต ประกันสังคม แรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับให้ข้อมูลการช่วยเหลือในส่วนของหน่วยงานสักกัดกระทรวงแรง

นายเวียง สุวรรณะ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการให้ความช่วงเหลือคนงานที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมด ว่า ในส่วนของสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือคนงานทั้งหมดตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ และให้ความช่วยเหลือตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งประสานไปยังบริษัทรับก่อสร้าง ดูแลให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งวันพรุ่งนี้ ( 14 ส.ค) ได้เชิญบริษัทที่เกี่ยวข้องมาจี้แจงข้อเท็จจริงถึงวิธีปฏิบัติในการทำงานดังกล่าว

ขณะที่ทางทูตแรงงานฯ ที่ลงมาวันนี้ก็ได้เข้าเยี่ยมและสอบถามข้อมูลจากทั้งแรงงานที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และ ที่โครงการ พร้อมกับขอบคุณทางการไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลือและดูแลรางงานทันทีหลังจากเกิดเหตุ

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องคดี พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนสภ.ฉลอง ได้เรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงคนควบคุมงานมาสอบปากคำไปกว่า 10 ปากแล้ว นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ คาดว่าผลจะออกมา 1-2 วันนี้ โดยในเบื้องต้นยังไม่การแจ้งข้อหาใครทั้งสิ้น ต้องรอผลก่อนจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้

ขณะที่ด้าน นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีค้นผู้สูญหายเสร็จสิ้น ทางเทศบาลตำบลราไวย์ ได้ทำรายงานสรุปของเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเสนอไปยังจังหวัดภูเก็ต ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ เข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าว และ ทางเทศบาลฯได้ติดประกาศไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ จนกว่าจะมีการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป