ทูตจีนร่วมแจงความคืบหน้าค้นหาผู้สูญหาย ด้านนายกตู่บินลงมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บพรุ่งนี้

โพสเมื่อ : Sunday, July 8th, 2018 : 4.17 pm

ความคืบหน้ากรณีเรือล่มที่เกาะเฮ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้สูญหาย 56 ราย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมค้นหา พบแล้ว 41 ราย ยอดล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (8 ก.ค.) นายหลู่ว่ เจี้ยน เอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราศี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมเพื่อสรุปสถานการณ์และแผนการการค้นหา รวมทั้งการดูแลญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต พร้อมร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 14 คน ในวันนี้ ว่า

นายหลู่ว เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ทั้งไทยและจีนให้ความร่วมมือในการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มความสามารถ รอบคจอบและรวดเร็วที่สุด แม้ว่าความเป็นไปได้จะเหลือน้อยแค่ 1% ก็ตาม โดยเฉพาะในประเด็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี ขณะนี้ทางการจีนได้ส่งผู้เชียวชาญมาร่วมสำรวจหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหากมีความชัดเจนจะมีการรายงานให้สื่อทราบต่อไป

นอกจากนี้ ทางไทยและจีน มีความร่วมมือในการตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับญาติของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต 3 ศูนย์ คือ ที่สนามบินภูเก็ต โรงพยาบาล และศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการประชุมหารือร่วมกับเอกอัครราชทูตจีน 2 ครั้ง ได้ตกลงที่จะดำเนินการร่วมกันระหว่างฝ่ายไทยและจีน 3 ข้อด้วยกัน เพื่อให้การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นคลี่คลายอย่างรวดเร็ว คือ จะร่วมกันเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจนกว่าจะพบทั้งหมด โดยได้ขยายขอความร่วมมือให้ทางจังหวัดกระบี่และพังงา จัดเรือค้นหาร่วมด้วย ร่วมกันสืบเสาะหาสาเหตุของโศกนาถกรรมครั้งนี้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียชีวิตในประเทศไทยรองจากเหตุการณ์สึนามิ ว่าเกิดจากอะไร มีใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการเอาผิดตามกฏหมาย รวมทั้งสืบสวนสอบสวนในทางลับให้ถึงขบวนการที่ทำให้เกิดธุรกิจการให้บริการของเรือลำนี้ และจะร่วมกันดูแลครอบครัวของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ด้วยการตั้งศูนย์อำนวยความสะดวก ที่สนามบินภูเก็ต จัดอาสาสมัคร ล่ามภาษาจีน ดูแลครอบครัวละ 1 คน จนกว่าจะดำเนินการเสร็จในทุกขั้นตอน โดยขณะนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาถึงภูเก็ตแล้ว 50 ครอบครัว

ศูนย์ที่โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับศพทุกขั้นตอน และศูนย์ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ในการให้ข้อมูลกับญาติที่ไม่ได้เดินทางมาที่ภูเก็ต โดยสามารถสอบถามข้อมูลที่ โทร.076- 685394 และ 076-685395 โดยทั้ง 3 ศูนย์ได้เปิดเรียบร้อยแล้ว

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นอุบัติภัยทางธรรมชาติใหญ่ที่สุดรองจากเหตุสึนามิ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หากสามารถคลี่คลายได้รวดเร็วบนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน จะให้ความกระจ่างแก่สังคม และเปลี่ยนวิกฤตเป็นความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว

ขณะที่นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การค้นหาผู้สูญหายนั้น ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้งการค้นหาโดยนักประดาน้ำในบริเวณรอบๆ ตัวเรือ การค้นหาทางเรือ ทางอากาศขยายไปถึงจังหวัดกระบี่และพังงาตลอดทั้งวันและทั้งคืน

พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วประมาณ 40 ปาก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับกัปตันเรือทั้ง 2 ลำ โดยกัปตันเรือเซเรนเนต้า แจ้งข้อกล่าวหา ประมาท ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนกัปตันเรือฟินิกซ์ แจ้งข้อกล่าวหาประมาท ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ในเบื้องต้นกัปตันเรือทั้ง 2 ลำปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยในวันนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญกัปตันเรือทั้งสองลำมาสอบปากคำเพิ่มเติม และทราบว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน

พลเรือตรีเจริญพล คุ้มราศี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงการค้นหาและการกู้เรือฟินิกซ์ ว่า ในวันนี้ทีมค้นหาได้ดำค้นหารอบๆตัวเรือ และพยามยามที่จะกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่กับตัวเรือออกมาให้ได้ ทำให้ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 42 ราย ทำให้มีผู้สูญหายที่ต้องค้นหาต่ออีก 14 ราย

ส่วนการกู้เรือฟินิกซ์นั้น จากการประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่าจะกู้เรือไปพร้อมกับการกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในซากเรือ โดยกรมเจ้าท่าจะเป็นผู้ควบคุมการกู้เรือและบังคับให้เจ้าของเรือเป็นผู้กู้เรือ และให้ทางศูนย์รักษาผลประโยชน์ทางทะเล หรือ ศรชล.เขต 3 เป็นหน่วยสนับสนุน พร้อมมีการวางแผนหน่วยงานที่จะรับผิดชอบในการกู้เรือครั้งนี้

ด้านนายกรัฐมนตรี เตรียมบินเยี่ยมผู้ประสบภัยเรือล่มภูเก็ต พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจ ในวันพรุ่งนี้ โดยพลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.61) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มที่ จ.ภูเก็ต และการช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี 13 คนออกจากถ้ำหลวง จ.เชียงราย

โดยนายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ไปถึง จ.ภูเก็ตในเวลาประมาณ 11.00 น. และเดินทางต่อไปยังศูนย์บัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจติดตามการปฏิบัติงานของกองอำนวยการร่วม ฯ จากนั้นจะเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต