ทัพเรือภาค 3 ส่ง 6 ลูกเรือประมงฟิลิปปินส์กลับ หลังคุมตัวนาน 9 เดือน
โพสเมื่อ : Friday, September 15th, 2017 : 4.19 pm
ทัพเรือภาค 3 ส่งกลับ 6 ลูกเรือประมงชาวฟิลิปปินส์ กลับประเทศแล้ววันนี้ หลังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ภูเก็ต 9 เดือน จากที่เจ้าหน้าที่ของไทยจับกุมเรือประมงอ้างสัญชาติโบลิเบียได้ 7 ลำ พร้อมลูกเรือ 15 คน เมื่อช่วงปลายปี 59 ที่ผ่านมา ที่ขอเข้าฝั่งที่ภูเก็ตเพื่อซ่อมแซมแต่ไม่มีใบแสดงว่าเป็นเรือสัญชาติตามที่แจ้งจริง ส่วนลูกเรือเผยด้วยรอยยิ้มว่า ดีใจมากที่จะได้เดินทางกลับบ้าน และจะทำอาชีพลูกเรือประมงต่อไป ส่วนเรือทั้ง 7 ลำถูกยึดไว้
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (15 ก.ย.) พลเรือโท สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ส่งตัวลูกเรือประมงชาวฟิลิปปินส์ ของเรือประมงที่กล่าวอ้างสัญชาติโบลิเวีย จำนวน 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักรับรองทัพเรือภาค 3 อ.เมือง จ.ภูเก็ต กลับประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จ และทางการฟิลิปปินส์ทำการตรวจสอบและรับกลับประเทศแล้วเสร็จเช่นกัน โดยลูกเรือทั้ง 6 คน จะเดินทางจากสนามบินภูเก็ตไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในวันนี้ ในการทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้มอบเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทางให้กับลูกเรือทั้ง 6 คน ด้วย
พลเรือโท สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงการส่งตัวลูกเรือประมงชาวฟิลิปปินส์ ทั้ง 6 คน กลับประเทศในวันนี้ ว่า เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทำประมง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและมีมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ รัฐบาลจึงมอบหมายให้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ที่มี พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย เข้าทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (IUU) ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และสามารถปลดล๊อกการได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรป ( EU )
การบังคับใช้กฎหมายถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการให้เกิดผล ดังนั้น ศปมผ. จึงได้มีการสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เพิ่มความเข้มงวด และบูรณาการในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันนั้น มอบหมายให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 ( ศรชล.เขต 3) ทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการประสานการปฏิบัติ
ศรชล.เขต 3 โดย พลเรือโท สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ผอ.ศรชล.เขต 3) ได้มีการดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนด ทั้งการควบคุมและกำกับดูแลการตรวจเรือประมงในทะเล การปฏิบัติงานของศูนย์รายงานเรือเข้า –ออก (ศูนย์ PIPO) ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันทั้ง 8 ศูนย์ รวมทั้งการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย โดยมีผลการปฏิบัติที่ผ่านมาเป็นตามเป้าหมายและแนวทางที่กำหนด
จึงสามารถดำเนินการจับกุมและควบคุมเรือประมงที่กล่าวอ้างสัญชาติโบลิเวีย จำนวน 7 ลำ เมื่อ 22 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา โดยได้มีการนำลูกเรือทั้งหมดจำนวน 15 คน โดยเป็นลูกเรือชาวอินโดนีเซีย จำนวน 9 คน และฟิลิปปินส์ จำนวน 6 คน ให้มาอยู่ในความดูแลและอำนวยความสะดวกของ ศรชล.เขต 3 เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลว่ามีการกระทำที่จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ โดย ศรชล.เขต 3 ได้จัดที่พัก ณ อาคารรับรอง บก.ทรภ.3 พร้อมอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่ 30 ธ.ค.2559 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ในส่วนของลูกเรือชาวอินโดนีเซีย ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและเดินทางกลับประเทศไปแล้ว เมื่อต้นเดือน ก.พ.2560 ส่วนลูกเรือฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการทุกอย่างแล้วเสร็จและส่งตัวกลับในวันนี้
การดำเนินการดูแลลูกเรือประมงที่กล่าวอ้างสัญชาติโบลิเวียที่ผ่านมา นั้น ศรชล.เขต 3 ได้ดำเนินการจัดที่พัก อาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกเรือทั้งหมดอย่างดีเท่าที่สามารถกระทำได้ โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ความเท่าเทียม และความเป็นเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและ ศปมผ.ทั้งนี้ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อที่เร่งรัดส่งลูกเรือได้กลับบ้านเกิดอย่างเต็มขีดความสามารถ และสามารถดำเนินการได้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนเรือประมงทั้ง 7 ลำนั้น ขณะนี้ได้ถูดยึดและจอดอยู่ที่บริเวณท่าเรือรัษฎา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พลเรือโทสุรพล กล่าวในตอนท้ายว่า การปราบปรามการค้ามนุษย์ทางทะเล นั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ศรชล.เขต 3 ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ การปฏิบัติการด้านการข่าว การสุ่มตรวจเรือในทะเล และการตรวจสอบแรงงานของ ศูนย์ PIPO ต่างๆ ทั้งในห้วงการรายงานเข้า-ออก จากท่าเรือ โดยผลการดำเนินการในพื้นที่ที่ผ่านมายังตรวจไม่พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์
ส่วนลูกเรือที่ถูกส่งตัวกลับในวันนี้ บอกว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสเดินทางกลับบ้านในวันนี้ หลังจากที่อยู่ในการควคุมของเจ้าหน้าที่ไทยเป็นเวลานานถึง 9 เดือน จะได้กลับไปหาครอบครัว เพราะคิดถึงลูกชายและหลานมาก และเมื่อกลับไปถึงฟิลิปปินส์แล้วก็ยังคงยึดอาชีพลูกเรือประมงเหมือนเดิม และตลอดเวลาที่อยู่ที่ประเทศไทยได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบ
- สิ้นสุดการรอคอย! ต้นปี 68 นี้ คนภูเก็ต-นักท่องเที่ยว ได้นั่งแน่รถโดยสาร EV Bus อ...
- เปิดใช้แล้ว! อาคารศูนย์อบรมจริยธรรมอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต...
- อาณา ดีเวลอปเมนท์ เปิดตัว “SERRANA” วิลล่าพรีเมี่ยมย่าน “ม่าหนิก” เฟสแรก 20 ยูน...
- กสิกรไทย เปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ “FX EV Car” ที่ภูเก็ต...
- โชว์เรื่องราวความรักแบบฟินๆที่เดียวในโลก ที่อควาเรียภูเก็ต...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ ทต.ศรีสุนทร สำรวจพื้นที่เพื่อปรับปรุงถนน ซ.บ้านม่าหนิก-กะทู้ ...
- December 2024 (2)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)