ททท.เดินหน้า ชี้แนะการประกวดรางวัลกินรี พลิกโฉมการใช้รางวัลเป็นเครื่องมือ ยกระดับคุณภาพสินค้า

โพสเมื่อ : Wednesday, March 6th, 2019 : 3.42 pm

 ททท.เดินหน้า ชี้แนะการประกวดรางวัลกินรี ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562 พลิกโฉมการใช้รางวัลกินรีเป็นเครื่องมือ ในการยกระดับคุณภาพสินค้าการท่องเที่ยวไทย ที่ใครๆ ก็ต้องเที่ยว เผยมีผู้สมัครแล้วหลายราย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (6 มี.ค.) ที่โรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต โภคีธรา อ.เมืองภูเก็ต นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือ รางวัลกินรี ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562 โฉมใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการประกวดและส่งเสริมการตลาด รวมถึงการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมชี้แจงเกณฑ์การตัดสิน ซึ่งได้พัฒนาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของงนักท่องเที่ยว

รวมถึงการใช้รางวัลกินรีเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพสินค้าการท่องเที่ยวไทย โดยมี นายสุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล และกรรมการประเภทที่พักนักท่องเที่ยว นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ กรรมการประเภทแหล่งท่องเที่ยว นายอภิชัย เจียรอดิศักดิ์ กรรมการประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ เจ้าของกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว เข้าร่วม

นายนิธี กล่าวว่า รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหรือรางวัลกินรี เปรียบเสมือนเครื่องหมายรับรองคุณภาพและยกระดับของสินค้าทางการท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน (Beyond Standard) ซึ่งมีบทบาทในการเป็นผู้คิดและเพื่อนร่วมงาน ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อให้คำแนะนำในการทำพัฒนาธุรกิจ รวมถึงการต่อยอดขยายฐานด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี

สำหรับการประกวดครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 12 นี้ ททท.ได้พัฒนากระบวนการประกวดรางวัล โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์พิจารณาและตัดสินรางวัล รวมถึงการนำองค์ความรู้ กรอบประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ และเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวมาประกอบการพิจารณา เพื่อให้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลกินรีมีคุณภาพที่ผู้เชี่ยวชาญให้การยอมรับและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ นำไปสู่การสร้างกระแสการเลือกใช้สินค้าท่องเที่ยวคุณภาพ ผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน (Preferred Destination) ตามวิสัยทัศน์ของ ททท.

การประกวดในครั้งนี้มี  3 ประเภทรางวัลหลัก และ มี 12 สาขารางวัลย่อย ประกอบด้วยประเภท Attraction (แหล่งท่องเที่ยว) แบ่งเป็น 6 สาขา, ประเภท Accommodation (ที่พักนักท่องเที่ยว) แบ่งเป็น 4 สาขา และประเภท Health and Wellness Tourism (การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ) แบ่งเป็น 2 สาขา ทั้งนี้ประเภทรางวัลแบ่งเป็น 2 รางวัล คือ รางวัล Kinnari Gold Award มอบแก่ผู้เข้าประกวดฯ ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินด้วยคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 85 – 100% ของคะแนนเต็มทั้งหมดของแต่ละสาขา

และรางวัล Kinnari Award มอบแก่ผู้เข้าประกวดฯ ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินด้วยคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 75 -84.99% ของคะแนนเต็มทั้งหมดของแต่ละสาขา โดยผลงานที่ได้รับรางวัล Gold สามครั้งติดต่อกัน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นรางวัลประเภทเดิม จะได้รับรางวัล Hall of Fame ซึ่งจะนับรวมผู้ที่เคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้กิจกรรมในวันนี้(6 มี.ค.) ยังมีการจัด TTA Clinic เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประกวดฯ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นายนิธี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2019 ยังได้รับสิทธิประโยชน์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขายและพัฒนาคุณภาพของสินค้าอีกมากมาย ได้แก่ ด้านการขยายผลสำเร็จด้านการตลาด โดยผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดจะได้รับการประเมินสุขภาพธุรกิจ พร้อมทั้งคำแนะนำในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินธุรกิจจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ, ได้รับส่วนลด 50 % ค่าเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายที่ ททท.จัดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น Thailand Travel Plus ประเทศไทย, World Travel Market สหราชอาณาจักร, International Tourism Borse สหพันธุ์สาธารณรัฐเยอรมันนี เป็นต้น

สำหรับสถานประกอบการที่มีผลงานโดดเด่น และ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในพื้นที่การจัดงานนั้นๆ จะได้รับการเทียบเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรม Consumer Fair, Trade Fair หรือ Road Show ที่ ททท.จัดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตลอดจนส่งเสริมให้อยู่ในโครงการทัศนศึกษาของสื่อมวลชนและบริษัทนำเที่ยว และโครงการทดสอบสินค้าที่ดำเนินการโดย ททท., จัดทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดและการขายร่วมกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล เช่น กิจกรรม Kinnari People Choice Awards ค้นหาสุดยอดสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย, กิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดให้บริการ เป็นต้น, การจัดอบรมหรือเวิร์คชอปพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันโดยคัดเลือกหัวข้อจากฐานข้อมูลการพิจารณาและตัดสินรางวัลเพื่อช่วยปิดช่องว่างในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งนี้การคัดเลือกผู้เข้าอบรมจะต้องสอดคล้องหัวข้อการจัดอบรม

ด้านการขยายผลประชาสัมพันธ์ จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออ๊อฟไลน์และออนไลน์ของ ททท. อาทิ อนุสาร อสท. เพจ Amazing Thailand , เพจ TAT Contact Cente เพื่อนร่วมทาง และสื่อที่ ททท. สนับสนุน, จัดทำเครื่องมือทางการตลาด อาทิ เอกสาร แผ่นพับ หนังสือของ ททท. รวมถึงการประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลฯ พร้อมตราสัญลักษณ์ และบทสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ของรางวัล และ ททท.

ผู้สนใจศึกษารายละเอียดเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการและสมัครทางออนไลน์หรือดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.tourismthailand.org/tourismawards  หรือ www.facebook.com/thailandtourismawards ในกรณีที่ไม่สะดวกสมัครทางออนไลน์ สามารถส่งใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการคัดเลือกได้ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ได้ที่กองส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เลขที่ 1600 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 หรือ สำนักงาน ททท.ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ วงเล็บมุมซอง การประกวด รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่ 12 ประจำปี 2562

ทั้งนี้จะเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 และจัดพิธีมอบรางวัลในวันที่ 27 กันยายน 2562 ซึ่งจะเป็นกิจกรรมหนึ่งในวันท่องเที่ยวโลกเวิร์ลทัวริสต์เดย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 0 2250 5500 ต่อ 4471 -74 โทรสาร 0 2250 5694 หรือโทร 1672 เพื่อนร่วมทาง

ด้าน นายสุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล และคณะกรรมการฯ ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว กล่าวถึงการตัดสินในครั้งนี้ ว่า อยู่ภายใต้กรอบแนวคิด 3 ประเด็นหลัก คือ การท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน (Sustainability and Responsibility) เสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยว (Voice of Customer: VOC) และความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยว (Customers Interest) โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล

ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและนวัตกรรม, ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน, ผู้เชี่ยวชาญด้านแหล่งท่องเที่ยว, ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ทักนักท่องเที่ยว และผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งประเภทที่พักนักท่องเที่ยว แบ่งเป็น 4 สาขา ได้แก่สาขา Luxury Hotel (ลักซ์ชูรี โฮเทล) สาขา Location Hotel (โลเคชั่น โฮเทล) สาขา Resort (รีสอร์ท) และสาขาDesign Hotel (ดีไซน์ โฮเทล)

ด้านนายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ กรรมการฯ ประเภท Attraction (แหล่งท่องเที่ยว) กล่าวว่า รางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น 6 สาขา ได้แก่ Outdoor Adventure Activity (แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการผจญภัย), Learning and Doing (แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้) Nature and Park (แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ) Fun and Entertainment (แหล่งท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิง) Historical and Culture (แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม) และ Local and Community (แหล่งท่องเที่ยวชุมชน)

ส่วนนายอภิชัย เจียรอดิศักดิ์ กรรมการฯ ประเภท Health and Wellness (การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ) กล่าวว่า รางวัลประเภทการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมี 2 สาขา ได้แก่ สาขา Spa (สปา) กับสาขา Wellness Retreat (เวลเนส รีทรีต)