ททท.จับมือ พีทีทีจีซี และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ สานต่อโครงการ Upcycilng the Ocean จัดเก็บขยะที่ภูเก็ต

โพสเมื่อ : Sunday, January 28th, 2018 : 3.47 pm

ททท.จับมือ พีทีทีจีซี และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf) สานต่อโครงการ Upcycilng the Ocean  ,Thailand  ชวน อาสาสมัครดำน้ำ และ เก็บขยะชายหาดป่าตอง,หาดในหาน,หาดในยาง คืนความสวยงามให้ทะเลภูเก็ต

วันนี้ ( 28 ม.ค.) เวลา 13.30 น. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ,มูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf) สานต่อโครงการ Upcycilng the Ocean  ,Thailand ปี 2 ขยายพื้นที่เพื่อจัดการขยะในทะเล ที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในทะเล พร้อมด้วย นายนรภัทรปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายบริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอลจำกัด(มหาชน)

 

ในโอกาสนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ส่งมอบถังขยะและถุงขยะ ให้กับนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จากนั้น นายฮาเวียร์ โกเยริเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ พร้อมคณะ ได้ส่งมอบถังขยะและถุงขยะ ให้กับนางสาวเฉลิม ลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง  เพื่อส่งเสริมการทิ้งขยะในถังและการแยกขยะพลาสติกในพื้นที่หาดต่างๆในจังหวัดภูเก็ต

โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากศิลปินดาราจิตอาสา เช่น ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก และ อเล็กซ์ เรนเดล มาร่วมดำน้ำเก็บขยะ ขณะที่ ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ร่วมเก็บขยะ บริเวณชายหาดกับเหล่าอาสาสมัครกว่า 1,000 คนที่หาดป่าตอง,หาดในหานและ หาดในยางด้วย

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรม Upcycilng the Ocean  ,Thailand  ในครั้งนี้เป็นการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมโดยนำสิ่งที่ถูกลืมไปนานแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ นำสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ สิ่งที่เจ้าของทิ้งนำมาแปรเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่มีค่า โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนาจนเกิดเป็นนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยโลก  สร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแนวใหม่เพื่อคืนความสุขให้โลก มาช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม รักษาภูเก็ต รักษาชุมชนร่วมกัน เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน คืนบ้านคืนธรรมชาติให้ปลาและเต่า

 

ขณะที่ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในนามของชาวจังหวัดภูเก็ตรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกิจกรรมโครงการ Upcycilng the Ocean  ,Thailand ในครั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเดินทางมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2561 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 18 ล้านคน

 

ทั้งนี้จากข้อมูลของสนามบินภูเก็ต พบว่าในปีนี้ มีนักท่องเที่ยว เดินทางมา ภูเก็ต วัน ละ 64,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 และ จากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดแนวทางในการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งเรื่องของการควบคุมขยะและน้ำเสียโดยการสร้างจิตสำนึกของชุมชน,ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตที่จะต้องร่วมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้มีความสะอาดเพื่อสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยได้มีการจัดโครงการตาสับปะรดเพื่อเฝ้าระวังดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของจังหวัดภูเก็ตอย่างยั่งยืนซึ่งขณะนี้มีเครือข่ายตาสับปะรดกว่า 400 คนเข้าร่วมโครงการเพื่อร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

สำหรับการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ จะช่วยสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเพราะบ้านเมืองที่สะอาดจะเป็นการผลักดันส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเห็นความสำคัญของการรักษาความสะอาดของแหล่งท่องเที่ยวและบ้านเมืองของจังหวัดภูเก็ตตามไปด้วย

 

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลกแต่เป็นที่น่าตกใจว่า ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีการทิ้งขยะลงสู่ทะเลเป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยพบว่าขยะร้อยละ 80 มาจากบนบกซึ่งส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติกขวดน้ำและเศษอาหาร อันนำไปสู่ผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในฐานะองค์กรหลักที่ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศและมีแนวทางที่จะมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยดำเนินการผลักดันแนวทางการทำตลาด 3 แนวทางคือ การสร้างกระแสการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อชะลอความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางการท่องเที่ยว, การสร้างสรรค์เนื้อหา Content เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าท่องเที่ยวไทยและการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยว

ขณะที่ นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอลจำกัด(มหาชน)  กล่าวว่า PTTGC ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการ Upcycilng the Ocean  Thailand โดยผนึกกำลังร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ เพื่อนมุ่งส่งเสริม การจัดการปัญหาขยะในทะเลและพื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยให้สวยงามอย่างยั่งยืน โดย PTTGC ได้นำหลักการ  Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนมาเป็นแนวทางในการต่อยอดการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรโดยนำนวัตกรรมเข้ามาสร้างสรรค์การแปรรูปขยะพัทยาจากขวดพลาสติกใสหรือขวด PET

 

และขยะจากพลาสติกโพลิเอทิลีน  (PE) เช่นถุงพลาสติก,ขวดพลาสติกทึบ มาแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพื่อการใช้ทรัพยากรให้มีประโยชน์สูงสุดตอบรับนโยบายของภาครัฐในการกำจัดขยะตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ที่มุ่งเน้นการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน

 

ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เข้าร่วมโครงการ Upcycing the Ocean ,Thailand โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์และบริหารจัดการขยะในเมืองท่องเที่ยวทางทะเลหลักๆ ของประเทศไทยคือ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง,จังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุย,เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนจำนวนมากและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณขยะมากขึ้น

โดยโครงการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเลของไทยและการจัดการแหล่งท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม   รวมถึงกระตุ้นจิตสำนึกสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ได้แก่  หน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ทะเลและชายฝั่ง,ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ฯลฯ ในการร่วมกันรักษาทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกระตุ้นให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ทั้งนี้ได้มีการเข้าไปบริหารจัดการขยะและนำขยะพลาสติกมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตและออกแบบเป็นสินค้าแฟชั่น เช่นเสื้อผ้า,กระเป๋า,รองเท้า

 

นับตั้งแต่ที่ได้มีการเปิดตัวโครงการและกิจกรรมการเก็บขยะในทะเลที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยองเมื่อกลางปีที่ผ่านมาโครงการมีความคืบหน้าพอสมควรได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรและหน่วยงานต่างๆภาครัฐภาคเอกชนรวมถึงภาคประชาชนที่พร้อมเข้าร่วมและสนับสนุนในพื้นที่นำร่อง  ณ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง  ทำให้โครงการสามารถรวบรวมขยะจากโครงการจำนวน 10 ตัน ตามเป้าหมายมาแปรรูปให้เป็นวัตถุดิบและพัฒนาเป็นผืนผ้าได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว

 

และคาดว่าจะสามารถออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นCollection Thailand เพื่อจำหน่ายได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ พันธมิตรทั้ง  3 องค์กร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,บริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอลจำกัดมหาชน และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf) คาดหวังว่าโครงการ Upcycilng the Ocean  Thailand นี้ จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยาวนาน ช่วยลดปัญหาขยะได้อย่างยั่งยืนและอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยให้สวยงามเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง