ทต.ราไวย์ สั่งระงับสร้างบ้านบนเนินเขาชั่วคราว หลังพบสร้างเกินที่ขออนุญาต  

โพสเมื่อ : Monday, July 31st, 2017 : 6.49 pm

 

เทศบาลตำบลราไวย์ สั่งระงับการก่อสร้างบ้านหรูบนเนินเขาทางไปอ่าวเสน ทั้ง 4 หลัง หลังตรวจสอบพบ สร้างเกินที่ขออนุญาต แจ้งให้ปรับปรุง ให้เสร็จภายใน 30 วัน หากไม่ปรับปรุงให้เป็นไปตามกฎหมายแจ้งความดำเนินคดี ด้าน ทสจ.สงสัยอยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 หรือ 2 นำเครื่อง GPS วัดค่าพิกัด ส่วนตัวแทนเจ้าของบ้านหรูยอมรับสร้างเกินที่ขอจริง พร้อมแก้ไขปรับปรุง เผยสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศของเจ้าของที่ดิน 4 หลัง 20 ล้านบาท

จากกรณีที่มีการโพสต์ และ แชร์ภาพ และข้อความกันในโลกโซเชียล พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสังในประเด็น การก่อสร้างอาคารดังกล่าว ว่าสร้างได้อย่างไร รวมถึงกรณีที่เทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต อนุญาตให้ก่อสร้างบ้านหรู ซึ่งตั้งอยู่เนินเขาริมชายทะเลทางไปอ่าวเสน และแหลมกระทิง ต.ราไวย์ วันนี้ (31 ก.ค.) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นาวาเอกบวร พรมแก้วงาม รอง กอ.รมน.ภูเก็ต นายเกษม สุขวารี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ท.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รอง ผบ.ร 25 พัน 3 ชุดรักษาความสงบจังหวัดภูเก็ต นายธนกัญจน์ ธโนปจัยรัตน์ นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภูเก็ต ฝ่ายปกครอง ผอ.กองช่าง เทศบาลตำบลราไวย์ ตัวแทนป่าไมจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว พร้อมชี้แจงถึงขั้นตอนการออกใบอนุญาตก่อสร้าง ว่ามีความเป็นมาอย่างไร

 

นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการตั้งข้อสงสัยถึงการก่อสร้างบ้านหรูบนเนินเขาริมทะเลทางไปอ่าวเสนในโซเชียลนั้น วันนี้ จึงได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งทางเทศบาลขอชี้แจงให้ทราบว่า เทศบาลตำบลราไวย์ ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยก่อนที่จะยื่นขออนุญาตก่อสร้าง ทางตัวแทนเจ้าของบ้านได้เข้ามาปรึกษาหารือกับเทศบาลหลายรอบเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หลังจากนั้นได้ยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างมายังเทศบาล เพื่อก่อสร้างบ้านพักอาศัยจำนวน 4 หลัง บางหลัง 2 ชั้น บางหลัง 3 ชั้น

ทางกองช่างของเทศบาลได้ทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ โครงสร้างความแข็งแรงของอาคาร กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวหลายครั้ง พร้อมทั้งได้แจ้งไปยังเจ้าของที่ดินว่า พื้นที่ดังกล่าวสามารถก่อสร้างบ้านพักอาศัยได้ แต่ไม่สามารถก่อสร้างโรงแรมหรืออาคารชุดได้ จึงได้อนุญาตก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าวตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522

อย่างไรก็ตาม หลังมีกระแสข่าวเกิดขึ้น ตนได้สั่งการให้ทางกองช่างลงไปสำรวจพื้นที่และการก่อสร้างอีกครั้งเมื่อวานนี้ ( 30 ก.ค.) ว่า เป็นไปตามใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า มีการก่อสร้างนอกเหนือจากที่มีการขออนุญาตบางส่วน เช่น ลานจอดรถที่มีเสาเพิ่มขึ้นมา 2 จุด ลานโล่งๆพร้อมเสาที่อยู่ด้านล่างของบ้าน 2 จุด ระยะถอยร่นไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางเทศบาลได้ทำหนังสือแจ้งให้ระงับการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ และหากในส่วนที่ก่อสร้างเพิ่มเติมหรือก่อสร้างผิดไปจากแบบที่ขอไม่สามารถปรับปรุงได้ เจ้าของโครงการจะต้องรื้อสิ่งก่อสร้างภายใน 30 วัน นับจากวันนี้ หากฝ่าฝืนทางเทศบาลจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ขณะที่ในส่วนของ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ได้นำเครื่อง GPS ไปวัดค่าพิกัด พื้นที่ก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว ว่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ระยะที่ 1 หรือ ระยะที่ 2 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาวิเคราะห์ประมวลผลให้ชัดเจน เพราะหากที่ดินที่ก่อสร้างตั้งอยู่ในพื้นที่ระยะถ่อยร่นที่ 1 ซึ่งเป็นระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 20 เมตร สามารถสร้างอาคารสูงได้ 6 เมตร แต่หากตั้งอยู่ในระยะที่ 2 เป็นระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 50 เมตร จะสามารถก่อสร้างได้สูง 12 เมตร

ด้านนายเกษม สุขวารี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างบ้านหรูในวันนี้ เป็นการตรวจสอบ ว่า พื้นที่ที่มีการอนุญาตก่อสร้างโดยทางเทศบาลตำบลราไวย์ ถูกต้องตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหรือไม่ โดยกรณีนี้เป็นการขออนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ไม่เข้าข่ายต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แต่เนื่องจากจังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลราไวย์ จะต้องนำประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาบังคับใช้ด้วย เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างอยู่ติดบริเวณทะเล

 

โดยตามประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ ได้กำหนดระยะถอยร่นไว้ทั้งหมด 9 ระยะ ในส่วนของการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว ทางเทศบาลและเจ้าของโครงการระบุว่าพื้นที่บางส่วนอยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 (ห่างจากจุดที่น้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 20 เมตร สร้างอาคารสูงได้ 6 เมตร ) แต่ที่ก่อสร้างตัวบ้านหรูอยู่ในระยะถอยร่นที่ 2 คือ ห่างจากน้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 50 เมตร สามารถก่อสร้างอาคารสูงได้ 12 เมตร หรืออาคารประมาณ 3 ชั้น

“ในวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่อง GPS ทำการตรวจวัดค่าพิกัดพื้นที่ว่าอยู่ในระยะที่ 1 หรือที่ 2 หากพื้นที่อยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 คิดว่าความสูงของอาคารที่สร้างน่าจะเกิน 6 เมตร ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าอยู่ในระยะถอยร่นระยะที่ 1 หรือ ระยะที่ 2 หลังจากได้ค่าพิกัดที่ดินเรียบร้อยแล้วจะเสนอไปยังเทศบาลราไวย์ เพื่อดำเนินการต่อไป แต่ในเบื้องต้นไม่สามารถระบุได้ว่าชัดเจนว่าอยู่ในระยะใด” นายเกษม กล่าวในที่สุด
ขณะที่นายธนกัญจน์ ธโนปจัยรัตน์ นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้เป็นการตรวจสอบในเบื้องต้นว่า ตำแหน่งที่ดินตรงกับเอกสารสิทธิหรือไม่ ในเบื้องต้นน่าจะตรงกัน โดยที่ดินดังกล่าวออกโฉนดเมื่อปี 2553 เนื้อที่ 30 ไร่ 3 งาน 59.1 ต.ร.ว.หลังจากนั้นได้แบ่งแยกที่ดินออกเป็น 4 โฉนดและยังเหลืออีก 1 โฉนดที่ยังไม่ได้ออก แปลงที่ทำการก่อสร้างโฉนดเลขที่ 113311 หมู่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 5 ตรว.โดยเจ้าของที่ดินได้ซื้อต่อมาจากเจ้าของที่ดินเดิม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา

 

ด้านนายอนันต์ จันทมาศ ตัวแทนเจ้าของบ้านหรู กล่าวยอมรับว่า ได้มีการก่อสร้างเกินจากส่วนที่ได้ยื่นขออนุญาตจากเทศบาลตำบลราไวย์ ในส่วนของลานจอดรถ ซึ่งคิดว่าไม่ต้องอนุญาต เพราะมองว่าไม่ได้เป็นอาคาร รวมถึงการก่อสร้างลานโล่งๆ ที่บริเวณชั้นล่างของบ้าน จะทำการรื้อถอนสิ่งที่เกินมาทั้งหมด หลังจากที่ได้รับหนังสือจากเทศบาลราไวย์ รวมไปถึงระยะถอยร่นจากบริเวณทางสาธารณะที่ได้มีการปรับลดความสูงของอาคารจาก 3 ชั้นเป็น 2 ชั้นแล้วสำหรับบ้านดังกล่าวนั้น เจ้าของซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯต้องการสร้างเพื่อให้เป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับครอบครัวและเพื่อนๆ มีทั้งหมด 4 หลัง หลังละ 2 ห้องนอน เป็นพูลวิลล่า 2 หลัง ตามกำหนดจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2561 ใช้เงินลงทุนก่อสร้างไม่รวมตกแต่งและที่ดินทั้งหมด 20 ล้านบาท