ถึงเวลาแล้วภูเก็ต ต้องมีเรือดับเพลิง มีเหตุบ่อยแต่ไร้เรือดับเพลิงใช้ เสนอกี่ครั้งก็ถูกปัดตก

ถึงเวลาแล้วที่ภูเก็ต ต้องมีเรือดับเพลิง หลังเกิดเหตุบอยครั้ง แต่ใร้เรือดับเพลิงใช้ หน่วยงานรัฐเตรียมประชุมกำหนดมาตรการเร่งด่วน เสนอจัดซื้อเรือดับเพลิงใช้ในพื้นที่ โดยให้ อบจ.เป็นเจ้าภาพหลัก หลังเสนอไปยังหน่วยงานรัฐหลายแห่งแต่ถูกปัดตก

จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และเรือ อื่น ๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งล่าสุดได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ เรือครุยส์ ซีแองเจิล บียอนต์ ที่จอดอยู่ในคลองท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้ ทำให้เรือได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากการเข้าดับเพลิงเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตไม่มีเรือดับเพลิง ที่จะเข้าไปควบคุมเพลิงเวลาเกิดไฟไหม้ได้ ทำให้ความสูญเสียมีมากกว่าที่ควรจะเป็น  

 ซึ่งเรื่องนี้ ที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ จังหวัดเคยเสนอขอซื้อเรือดับเพลิงไปแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุน เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต  กล่าวว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีปัญหาเรื่องของไฟไหม้เรือบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะจอดอยู่ที่ใหน แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่าเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ตยังขาดอยู่คือเรื่องของเรือดับเพลิง ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดได้ผลักดันในเรื่องของการของบประมาณในการจัดซื้อเรือดังเพลิง แต่เมื่อถึงเวลาพิจารณาในชั้นนโยบายของแต่ละหน่วยงาน เรื่องนี้ก็จะถูกปรับตก ทำให้ทุกวันนี้จังหวัดภูเก็ตยังไม่มีเรือดำเพลิงเข้ามาปฏิบัติการ ทำให้เวลาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เรือ การเข้าดับเพลิงจึงเป็นปัญหาสำคัญ

 อย่างไรด็ตาม ขณะนี่ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ภูเก็ตควรจะมีเรือดับเพลิง อยู่ประจำในพื้นที่เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไฟไหม้เรือ เนื่องจากปัจจุบันการท่องเที่ยวทางเรือเติบโตอย่างต่อเนื่อง และถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาทบทวงเรื่องนี้กันอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดหาเรือดับเพลิงมาประจำที่ภูเก็ต ซึ่งทราบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการประชุมเพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ในวันที่ 16 ธ.ค. นี้ ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องการจัดซื้อเรือดับเพลิงนั้นทางอบจ.ภูเก็ต จะเป็นเจ้าภาพในการผลักดันจัดหางบประมาณในการจัดซื้อเรือดับเพลิงมาใช้ในภูเก็ต

นอกจากนั้นเพื่อให้การดับเพลิงมีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินการดับเพลิงได้อย่างรวดเร็ว มีการเสนอให้ท่าเทียบเรือต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ติดตั้งปั๊มฉีดน้ำแรงดันสูงประจำท่าเพื่อใช้ในการดับเพลิงได้ทันที ถ้าเครื่องสูบน้ำมีแรงดันสูงไม่พอก็ไม่สามารถฉีดน้ำดับเพลิงเรือที่จอดอยู่ห่างจากฝั่งได้

นายณชพงศ กล่าวต่ออีกว่า ถ้าจังหวัดภูเก็ตมีความในเรื่องของเรือดับเพลิง  ปั๊มน้ำแรงดังสูง อยู่ในพื้นที่ จะสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพในการควบคุมเพลิมได้ดียิ่งขึ้น และจะสามารถลดความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ได้มากขึ้นด้วย  คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จังหวัดภูเก็ตควรจะมีเรือดับเพลิงประจำในพื้นที่

 ส่วนความคืบหน้ากรณีไฟไหม้เรือ ครุยส์ ซีแองเจิล บียอนต์ ซึ่งถูกเพลิงไหม้เสียหาย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีการลากเรือลำดังกล่าวมาขึ้นคาน ที่คานเรือรัตนชัย ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แล ะเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง  โดยมี นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต  เจ้าหน้าที่ และ ผู้จัดการบริษัทซีแองเจิล ร่วมสังเกตการณ์

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดแหตุไฟไหม้เรือดังกล่าวขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งส่วนความเสียหายในเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท โดยเพลิงไหม้บริเวณชั้นบนเสียหายทั้งหมด  และได้ลุกลามลงมาที่ชั้นล่าง หลังจากนี้ทางเจ้าของเรื่องก็จะซ่อมเรือต่อไป

 สำหรับเรือแองเจิล บียอนต์ เป็นท่องเที่ยวข้ามฝากภูเก็ต – เกาะพีพี เป็นเรือครุยส์ขนาดใหญ่ บรรทุกผู้โดยสารได้หลายร้อยคน เรือลำดังกล่าวสร้างและจดทะเบียน เมื่อปี 2559 เคยวิ่งรับส่งผู้โดยสารมาแล้ว และ หยุดให้บริการมาประมาณ 2-3 ปี ในช่วงที่ก่อนเกิดโรคโควิดระบาด อย่างไรก็ตามเรือลำดังกล่าวได้กลับมาให้บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ในช่วงปลายปีนี้  โดยเริ่มวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวมาแล้ว 4 ครั้ง ส่วนวันที่เกิดเหตุเรือไม่มีกำหนดออกให้บริการนักท่องเที่ยว  ส่วนจุดที่เป็นต้นเพลิงคาดดว่าเกิดจากห้องกัปตัน