ตำรวจไทยเจ๋ง! รวบแก๊งค์รัสเซียใช้ ATM ปลอมตระเวนกดเงินทั่วป่าตองและกมลา

ชุดสืบสวนสภ.กมลา ร่วมกับ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภ.8 และ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับกุม 2 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมาตระเวนกดเงินในพื้นที่ต.ป่าตองและต.กมลา พร้อมบัตรที่มีการใช้งานและยังไม่ใช้งานกว่า 400 ใบ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (15ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกมลา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.กมลา นำโดย พ.ต.ท.โชคดี มาบางยาง รอง ผกก.ป.สภ.กมลา พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รองผกก.สส.สภ.กมลา พ.ต.ท.อศลย์ จิรักษา สว.สส.สภ. กมลา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภ.8 นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รองผกก.สส.สภ.อ่าวนาง กระบี่ ปฎิบัติราชการแทน รองผกก.สส.ภ.8 และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย ร.ต.อ.ปรมิทร์ พรรณราย สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กมลา, ชุดสืบสวนภ.จว.ภูเก็ต และชุดสืบสวนภ.8 ร่วมกันจับกุม 2 นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซีย ประกอบด้วย Mr.ZAVIALOV EVAGENII อายุ 27 ปี และ Mr.RYZHANKOV PAVEL อายุ 33 ปี พร้อมด้วยของกลาง ธนบัตรไทย ฉบับละ 100 บาท จำนวน 30 ฉบับ รวมเป็นเงิน 3000 บาท ใบบันทึกรายการเบิกถอนเงินผ่านตู้ ATM ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 6 ฉบับ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมสีเทา จำนวน 48 ใบ แต่ละใบเขียนกำกับหมายเลข แผ่นกระดาษจดหมายเลขบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมรหัสการใช้บัตร 4 หลัก จำนวน 1 แผ่น กระเป๋าคาดสะเอวสีดำ จำนวน 1 ใบ ธนบัตรไทย ฉบับละ 1000 บาท จำนวน 2 ฉบับ รวมเป็นเงิน 2000 บาท บัตรพลาสติกติดแทบแม่เหล็กสีเทา (ยังไม่ได้เขียนหมายเลขกำกับ ) จำนวน 427 ใบ แท็บเล็ต ยี่ห้อ Acer จำนวน 1 เครื่อง สมุดมีรายการจดหมายเลขบัตรและรหัสการใช้ จำนวน 1 เล่ม คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อซัมซุง พร้อมสายชาร์ต จำนวน 1 เครื่อง เครื่องบันทึกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมด้วยอุปกรณ์ จำนวน 1 เครื่อง และ แผ่นCD (ไดร์เวอร์) จำนวน 2 แผ่น โดยสามารถจับได้ที่ ตรวจจุดสกัดป้อมนาคา ม.6 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต่อเนื่องห้องพักหมายเลข 23 โรงแรม Royal Prince Residence ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ตได้ทำการสืบสวนทราบว่ามีบุคคลต่างด้าวผิวขาวได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮา สีดำ-แทบแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 3288 ภูเก็ต มีพฤติการณ์ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตระเวรนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมไปกดเงินจากตู้ ATM ของธนาคารต่างๆ ในเขตพื้นใน ตำบลป่าตอง และตำบลต่างๆ ของอำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยชายต่างชาติคนดังกล่าวมุ่งหน้ามาจากตำบลป่าตอง มุ่งหน้ามายังตำบลกมลา เพื่อกดเงินสดหลังจากที่ได้รับแจ้ง พ.ต.ท.โชคดี มาบางยาง

รอง ผกก.ป.สภ.กมลา พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจจราจร ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่อยู่ป้อมนาคา ม.6 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อเห็นบุคคลต่างดังกล่าวจึงได้ทำการเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้นปรากฏว่า ชาวต่างชาติดังกล่าวได้หยุดรถเพื่อให้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบบัตรอิเล็คทรอนิกส์ปลอมอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายของผู้ต้องหาที่ 1 และยังพบอีกจำนวนหนึ่งอยู่ที่ผู้ต้องหาที่ 2 จากนั้น พ.ต.ท.โชคดี ฯ จึงแจ้งให้ พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวนมาทำการสืบสวนขยายผล จากการสืบสวนขยายผล พบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองมาพักที่ห้อง 23 โรงแรม Royal Prince Residence ถนนนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่าที่ห้องพักของผู้ต้องหาทั้งสองดังกล่าวน่าจะมีเครื่องมือหรือวัตถุในการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ อยู่ในห้องจึงแจ้งให้ผู้ต้องหาทั้งสองนำเจ้าหน้าที่สืบสวนไปตรวจค้นที่ห้องพักซึงผู้ต้องหาทั้งสองยินยอมนำเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจค้นแต่โดยดี ผลการตรวจค้นพบ บัตรอิเล็คทรอนิกส์ปลอมที่มีการเขียนรหัสและไม่มีการเขียนรหัส และของกลางอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางของผู้ต้องหาที่ 2 วางอยู่ในห้องพักดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นที่ห้องพักดังกล่าวแล้วนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมดังกล่าวนำไปกดที่ตู้ ATM เพื่อเอาเงินมาเป็นของตน ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมมาสอบสวนที่ห้องสืบสวนสภ.กมลา

จากการถามผู้ต้องหาทั้งสอง 2 คน ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2559 หลังจากที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมาถึง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้พบกับ นายเอริเทียมร์ ชาวยูเครน ได้นำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก, เครื่องมือและบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมทั้งหมดมาให้ หลังจากที่ได้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมได้นำมากดเงินที่ ตู้ATM ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในพื้นที่ต.ป่าตอง ในวันที่ 14 และ 15 กันยายน 2559 ต่อมาวันนี้ ขณะที่จะนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมากดในพื้นที่ต.กมลา จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและทำการจับกุมในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ร่วมกันทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม หรือมีเครื่องมือหรือวัตถุเช่นว่านั้นเพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลง และ ร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น ในเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าว พร้อมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.กมลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป