ตำรวจสภ.ถลาง เข้าตรวจสอบวัยรุ่มมั่วยาเสพติด พบซุกระเบิดในห้องเช่า

ตำรวจ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต นำกำลังเข้าตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาฯ ในพื้นที่ หลังรับแจ้งจากสายลับ พบซุกระเบิดลูกเกลี้ยงไว้ในห้องเช่า อ้างเป็นของเพื่อนเอามาฝากไว้

พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการร์ การกวาดล้างจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ ว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดย เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน รอง ผกก.สส.สภ.ถลาง,พ.ต.ต.สุริศักดิ์ หลีวิจิตร สวป.สภ.ถลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ถลาง ได้ร่วมกันตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายฐิติกร  วิภวชาติ  อายุ 24  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 219  ม.1  ต.เทพกระษัตรี  อ.ถลาง  จ.ภูเก็ต และ น.ส.สมฤทัย  ศรีสว่าง  อายุ 24  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 232/36  ม.00  ต.ตลาดใหญ่  อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ชนิดเกร็ดใส จำนวน 1 ถุง น้ำหนักหักลบถุงประมาณ 0.08 กรัม  2.ระเบิดขว้างสังหาร(ลูกเกลี้ยง) จำนวน 1 ลูก 3.อุปกรณ์การเสพยาบ้า จำนวน 1 อัน  4.อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ จำนวน 1 อัน  โดยแจ้งข้อกล่าวหา  ร่วมกันมียาเสพติด ประเภท 1 (ยาไอซ์) มีไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” และ มีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้(ระเบิดขว้างชนิดลูกเกลี้ยง) โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่  ม.1  ต.เทพกระษัตรี  อ.ถลาง  จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดขับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ที่บ้านเช่าในพื้นที่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีวัยรุ่นมั่วสุ่มเสพยาเสพติด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบ้านเช่าพบ นายฐิติกร  วิภวชาติ  อายุ 24 ปี นั่งซ่อมรถอยู่บริเวณหน้าบ้านเช่าในลักษณะมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเข้าไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบนางสาว และ น.ส.สมฤทัย  ศรีสว่าง  อายุ 24 ปี อยู่ภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมทั้ง 2 คน นำตรวจค้นภายในห้องเช่า

จากการตรวจค้นพบของกลาง ยาไอซ์ อุปกรณ์เสพยา รวมทั้งระเบิดลูกเกลี้ยง พร้อมใช้งานจำนวน 1 ลูก จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นแฟนกัน และอาศัยอยู่ในห้องเช่าที่เกิดเหตุ  ส่วนยาเสพติดซื้อมาจากคนรู้จัก ขณะที่ระเบิดที่พบเป็นของเพื่อนที่นำมาฝากไว้ หลังการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป