ตำรวจภูเก็ตรวบผู้ต้องหาค้ายาบ้าหัวใสซุกยาบ้าเกือบ 4 หมื่นเม็ดในยางล้อรถบังคับ

โพสเมื่อ : Friday, September 28th, 2018 : 4.53 pm

ตำรวจจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ หัวใสซุกยาบ้าเกือบ 40,000 เม็ด ในล้อรถบังคับ พร้อมยึดทรัพย์กว่า 1 ล้านบาท อ้างรับจ้างขนครั้งละ 5,000 -10,000 บาท โดยจะส่งมาในกล่องพัสดุภายในบรรจุรถของเล่นบังคับและยาบ้าจะซุกซ่อนมาในล้อยางรถ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (28ก.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ  ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกูล หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ  ตามแผนป้องกันปรามปรามอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “แผนพิทักษ์ภัยให้ประชาชน 2561” ซึ่งให้ถือปฏิบัติตั้งแต่เดือน พ.ย.60 – ก.ย.61 และกำหนดให้ทุกสถานีตำรวจระดมกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงเวลาการปฏิบัติ เป้าหมายอาวุธปืน วัตถุระเบิด อาวุธสงครามผิดกฎหมาย ยาเสพติด การจัดระเบียบสังคมการจับกุมนักเรียน/ นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทการแข่งรถในทางและบุคคลหรือกลุ่มบุคคลคนที่ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 คน  ประกอบด้วย นายยอห์น มาระโก วิคเคอร์ส  หรือจอนนี่  อายุ 29 ปี นางสาวทิพย์รัตน์  พรมประมูล  หรือก้อย  อายุ 29 ปี และ นายอุดม  รัตนมณี  หรือเอ อายุ 44 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า รวมทั้งหมด จำนวน 39,820 เม็ด ยาไอซ์ จำนวนทั้งหมด 18.80 กรัม และเฮโรอีน จำนวน 0.18 กรัม พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบตาม พรบ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ

ประกอบด้วย รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ BMW  หมายเลขทะเบียน ขก-7953 ภูเก็ต รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ NISSAN MARCH  หมายเลขทะเบียน กพ-7961 สระบุรี รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อMITSUBISHI  หมายเลขทะเบียน ป้ายแดง ก-5949 กทม. สมุดบัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำนวน 2 เล่ม และสร้อยคอทองคำ จำนวน 2 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 30 กรัม รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 1,230,000 บาท

พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ  ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ ว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.61 เวลาประมาณ 16.00 น. ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้จับกุมตัว นายพงศ์ศักดิ์ หรือเบียร์ แก้วสุกใส  อายุ 33 ปี ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 119 เม็ด ต่อมาได้ขยายผลจนสามารถจับกุม นายสนธยา หรือบู หนูดำ อายุ 41 ปี พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์ น้ำหนักรวมทั้งหมด 2.52 กรัม, ยาบ้า จำนวน 67 เม็ด  ในชั้นจับกุม นายสนธยาฯ ให้การว่า ตนเองเคยติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดมาจำหน่ายจาก นายยอห์น มาระโก วิคเคร์ส หรือจอนนี่  ซึ่งอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จว.ภูเก็ต เป็นเครือข่ายยาเสพติดของ นายอุดม หรือเอ รัตนมณี  ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

ต่อมาวันที่ 26 ก.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านพักของ นายยอห์น หรือจอนนี่ฯ เมื่อเดินทางไปถึง  พบ นายยอห์น หรือจอร์นฯ และนายอุดม หรือเอ รัตนมณี  อยู่บริเวณหน้าบ้าน  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในบ้านพักของ นายยอนห์น หรือจอร์นฯ  และห้องพักของ นายอุดม หรือเอฯ  อาร์พาทเม้นแห่งหนึ่ง ม.2 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบยาเสพติดรวมทั้งหมดตามรายการดังกล่าวข้างต้น

สำหรับ นายยอห์น หรือจอนนี่ฯ 1 ในผู้ต้องหา ให้การรับว่า หลังจากที่ตนเองพ้นโทษในคดียาเสพติด จากเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เมื่อปี 2559   ต่อมาประมาณเดือน มิ.ย.61  นายอุดม หรือเอ รัตนมณี  ซึ่งรู้จักกันตอนถูกควบคุมตัวในเรือนจำในคดียาเสพติด ได้ชักชวนให้มาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด โดยให้มีหน้าที่ รับมาตรวจนับจำนวน และนำยาเสพติดไปวางตามจุดนัดหมายให้กับส่งลูกค้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต  ตามคำสั่งของ นายอุดมฯ

โดยนายอุดมฯ จะเป็นคนสั่งยาเสพติดมาจากกรุงเทพมหานคร  ซึ่งจัดส่งมากับบริษัทรับส่งสินค้า เป็นกล่องลังพัสดุ ภายในบรรจุรถของเล่นบังคับโดยจะซุกซ่อนยาบ้ามาในล้อรถของเล่นดังกล่าว ซึ่งตนเองได้รับค่าจ้าง เป็นเงินครั้งละประมาณ 5,000 – 10,000 บาท และยาบ้า จำนวน 2 ถุง  (400 เม็ด) โดยร่วมกันทำในลักษณะนี้มาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง  และครั้งล่าสุดซึ่งเป็นยาบ้าของกลางในคดีนี้

โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย.61  นายอุดมฯ ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อมาบอกให้ตนเองเดินทางไปรับกล่องลังสินค้าซึ่งภายในบรรจุยาบ้า  ที่บริเวณริมถนนหน้าหมู่บ้านพนาสนธิ์ น้ำตกกะทู้  เดินทางไปรับแล้วนำมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในบ้านพักที่เกิดเหตุ  จนกระทั่งวันที่ 26 ก.ย.61 เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ นายอุดมฯ เดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบยาบ้าของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นจับกุมได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ” พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป