ตั้งกรรมการสอบแล้วสารวัตรในภูเก็ตถูกร้องเรียน เจ้าตัวยันพร้อมชี้แจง

โพสเมื่อ : Wednesday, March 29th, 2017 : 3.08 pm

 

ย้ายเข้า ภ.จว.ตั้งกรรมการสอบ สารวัตรถูกร้องเรียน หลังนายกฯให้สัมภาษณ์สั่งย้ายผ่านสื่อ พร้อมเรียกคนร้องคนถูกร้องให้ข้อมูล ผู้การภูเก็ตยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะที่เจ้าตัวยืนยันพร้อมชี้แจงทุกข้อร้องเรียน ระบุมีปัญหากันมานาน

จากกรณีเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ว่า ได้สั่งย้ายตำรวจในตำแหน่งสารวัตรคนหนึ่งที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีการร้องเรียน พร้อมให้ผู้บังคับบัญชาสอบสวน

ล่าสุด วันนี้ ( 29 มี.ค.) พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งให้นายตำรวจที่ถูกร้องเรียนมาปฏิบัติหน้าที่ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่มีการร้องเรียนแล้ว โดยให้เวลาในการสอบสวนเป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งการสอบสวนนั้นจะต้องเชิญทั้งในส่วนของผู้ร้อง และในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกร้องมาให้ข้อมูล ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายคงจะมีพยานหลักฐานกันมามากพอสมควร จึงให้เวลาในการสอบสวน 15 วัน ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการสอบข้อเท็จจริงจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ผิดก็ว่ากันไปตามผิดถูกก็ว่ากันไปตามถูก ซึ่งกรณีนี้ก็มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง

ขณะที่พ.ต.ต.ธัญตุรงค์ วุฒิวงศ์ สวป สภ.ป่าตอง ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจที่ถูกร้องเรียนในครั้งนี้ กล่าวว่า กรณีที่มีการร้องเรียนตนนั้นขอยืนยันและพร้อมที่จะจี้แจงข้อเท็จจริงทุกกรณีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้อาวุธข่มขู่ในสถานบันเทิง ซึ่งในวันที่เกิดเหตุมีพยานยืนยันได้ว่าไม่มีการใช้อาวุธปืนไปข่มขู่ใครแต่อย่างใด วันนั้นไปที่สถานบันเทิงดังกล่าวพร้อมกับลูกน้อง ซึ่งมีคนนั่งอยู่ภายในร้านก่อนแล้ว จึงมีการมองหน้ากันประมาณ 3 นาที ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียน ว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ยืนยันได้ว่าไม่เคยมีการเรียกรับผลประโยชน์ตามที่มีการร้องเรียนอย่างแน่นอน

ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ที่ป่าตองประมาณ 2 ปี แต่จากการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับคนบางคนบางกลุ่ม และมีการเขียนถึงตนในทางเสียหายหลายๆครั้ง ซึ่งตนได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่เขียนและทำให้เกิดความเสียหายไปหลายคดีแล้ว ส่วนกรณีมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตนก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกกรณี

สำหรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ลงชื่อกลุ่มประชาชนคนป่าตอง ร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 โดยใช้ชื่อ“ ขอให้ลงโทษทางกฎหมายและย้ายข้าราชการตำรวจออกจากพื้นที่หาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยด่วน” ซึ่งหนังสือร้องเรียนมี เนื้อหาบางส่วนระบุ ว่า “เนื่องจากพวกกระผมประชาชนชาวป่าตอง ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสกับพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจสภ.ป่าตอง ในการเรียกรับสินบน ข่มขู่ ข่มเหง รังแก ขืนใจ ยังคับ จากนายตำรวจที่ไร้มนุษยธรรม ทำตัวเหนือกฎหมาย ส่อไปในทางมาเฟีย อั้งยี่ โดยใช้กฎหมายบังคับใช้กับประชาชนอย่างไม่เป็นธรรมและดูถูกความเป็นมนุษย์และความเป็นประชาชนอย่างไม่เกรงกลัวผู้ใดในบ้านเมืองและมีพฤติกรรมที่ดูแคลนประชาชนเยี่ยงทาส ใช้อำนาจที่ตั้งกฎหมู่ขึ้นมาเพียงเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตัว รังแกชาวบ้าน ประชาชน เพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สินเงินทอง”

จดหมายดังกล่าว ได้มีการพาดพิงถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ 2 นาย และอ้างว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายตำรวจทั้ง2นายได้อ้างว่ามีความสนิทสนมและใกล้ชิดอย่างแนบแน่นกับระดับรองนายกรัฐมนตรี และไม่เกรงกลัวผู้ใดในจังหวัดภูเก็ต โดยพฤติกรรมดังกล่าวได้ถูกร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่างๆมาโดยตลอด ทั้งศูนย์ดำรงธรรม ปปช. และ มทบ.41 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ