ตร. “เผยคดี ทรานลี่” คืบ 90 % รู้ยังส่งลูกทัวร์ให้เครือข่าย ถ้าผิดกฎหมายไม่ละเว้น
โพสเมื่อ : Thursday, July 21st, 2016 : 9.10 pm
www.pic-phuket.com สนใจร่วมฟังสัมมนา จองบัตรล่วงหน้า 076217199,0865092424
ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวควงแขนผู้การฯภูเก็ต ระบุคดี ทรานลี่รวบรวมพยานหลักฐานได้แล้ว 90 ส่วนทรัพย์สินยึดหมดแล้วทั้งเรือ/รถ รู้ยังส่งลูกทัวร์จีนให้เครือข่าย หากไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ตามเช็ค พร้อมระบุบริษัทที่รับทัวร์จีนในภูเก็ตไม่ได้เป็นนอมินีทั้งหมด ขณะที่ตัวแทนสมาคมท่องเที่ยภูเก็ตระบุกรณีผู้บริหารทรานลี่ เป็นกรรมการสมาคมขณะนี้ได้ขาดคุณสมบัติไปแล้ว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องประชุมกองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก. ภ. จว.ภูเก็ต รวมทั้ง พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท.พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท.พ.ต.อ.ศรีศักดิ์ คำภีรญาณ ผกก.5 บก.ทท.ได้ร่วมหารือกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ตัวแทนจากท่องเที่ยวและกีฬา นายสรายุทธ์ มัลลัม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามัน สมาคมท่องเที่ยวไทยบริการภาคใต้ตอนบน ฯลฯ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาและมาตรการรองรับสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบของภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สรุปเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวภูเก็ตในห้วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2559 เข้าร่วม พร้อมทั้งมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการตรวจสอบธุรกิจนอมินีของกลุ่มบริษัท ทรานลี่ ทราเวล จำกัด
พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัท ทรานลี่ ว่า ขณะนี้การดำเนินคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว มีการรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถยึดรถยนต์ (รถบัสรับส่งนักท่องเที่ยว) ไปแล้วทั้งหมด 117 คัน และเรือสปีโบตอีก 33 ลำ ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดนี้ทางปปง.จะเป็นผู้พิจารณาขายทอดตลาดหากไม่มีบุคคลอื่นมาอ้างกรรมสิทธิ์ในรถบัสและเรือที่ยึดไว้ ส่วนคดีแจ้งความเท็จมีการสอบสวนทยอยแจ้งไปแต่ละคดี ซึ่งมีหลายคดีมาก และในส่วนของคดีอั่งยี่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการประกอบธุรกิจทั้งหมด ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เนื่องจากมีพยานหลักฐานจำนวนมาก และจะต้องดำเนินการอย่างรอบครอบ ส่วนกรณีของนายวีระชัย คำไผ่ประพันกุล หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัททรานลี่ที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งหมายจับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนกรณีนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม หลังตำรวจนำตัวไปฝากขัง ทางศาลจังหวัดภูเก็ตได้ให้ประกันตัวแล้ว
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า หลังจากดำเนินคดีกับบริษัทในเครือทรานลี่แล้ว ยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ในการตรวจสอบแต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะดำเนินการกับบริษัทใดบ้าง หากตรวจพบว่ามีการประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเป็นนอมินีก็จะเข้าตรวจสอบเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในภูเก็ตนั้นมีบางบริษัทที่คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบริษัทนอมินีของจีน เนื่องจากเจ้าของเป็นคนจีน แต่ผู้บริหารบริษัทดังกล่าวได้สัญชาติไทยแล้ว ด้วยการแต่งงานกับคนไทย ก็ไม่เข้าข่ายการดำเนินธุรกิจนอมินี และบริษัทใหญ่ในภูเก็ตที่รับทัวร์จีนก็มีคนไทยเป็นเจ้าของจำนวนมาก ไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทที่รับทัวร์จีนจะเป็นนอมินีของทุนจีนทั้งหมด
ขณะที่พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท.กล่าวถึง ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับบริษัทในเครือ ทรานลี่ ทราเวล จำกัด ว่า การดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับธุรกิจที่เข้าข่ายใช้คนไทยเป็นนอมินีนั้น เป็นนโยบายของรัฐบาลในการที่จะสร้างความพอใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งการดำเนินการกับทางกลุ่มบริษัท ทรานลี่ นั้น ขณะนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุม ยึดทรัพย์ และรวบรวมพยานหลักฐานยกเลิกการจดทะเบียนนิติบุคคลและทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวไปทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับธุรกิจที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศและจังหวัดภูเก็ต อย่างกรณีของกลุ่มบริษัท ทรานลี่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยกเลิกทั้งหมดแล้ว แต่ลูกทัวร์ที่ได้จองเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตยังสามารถที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติเพียงแต่บริษัทที่รับช่วงลูกทัวร์ต่อจากบริษัท ทรานลี่นั้น จะต้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เข้าข่ายนอมินี
หากสืบทราบว่าบริษัทใดเข้าข่ายนอมินีจะดำเนินการเข้าไปตรวจสอบทันที และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลทั้งหมดแล้วว่ามีบริษัทใดบ้างที่รับลูกทัวร์ต่อจากทรานลี่ ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตอย่างมีความสุข เพราะนักท่องเที่ยวเหล่านั้นไม่ได้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และทางตำรวจท่องเที่ยวได้มีการประสานไปยังสถานทูตจีนเพื่อแจ้งไปยังประเทศจีนถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยต่อนักท่องเที่ยวจีนยังดีอยู่ไม่มีปัญหาอะไร นักท่องเที่ยวจีนยังคงเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้เหมือนเดิม และในส่วนของบริษัททรานลี่นั้น เชื่อว่าเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาเครติดไว้ หากจะกลับมาดำเนินการธุรกิจอีกครั้งก็สามารถที่ทำได้แต่จะต้องดำเนินการตามที่กฎหมายไทยกำหนดทั้งหมด
ส่วนนายสรายุทธ์ มัลลัม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ผู้บริหารบริษัท ทรานลี่ ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีนั้นเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมฯไม่มีข้อมูลเรื่องการปลอมแปลงเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนแต่อย่างใด แต่ภายหลังจากมีการถอนใบอนุญาตประกอบการของบริษัททั้งหมด ทำให้ต้องการคุณสมบัติการเป็นสมาชิกและคณะกรรมการไปโดยปริยาย และขณะนี้ได้มีการถอนชื่อออกจากคณะกรรมการสมาคมฯเรียบร้อยแล้ว ทางภาคเอกชนเห็นด้วยกับการตรวจสอบบุคคลที่ทำผิด แม้ว่าการตรวจสอบดังกล่าวอาจจะกระทบการท่องเที่ยวของภูเก็ตบ้างแต่เป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น แต่จะส่งผลดีในระยะยาวกับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาภูเก็ต เพราะนักท่องเที่ยวที่มีภูเก็ตกว่าร้อยละ 90 จะไม่กลับมาอีก เนื่องจากไม่ประทับใจในการมาท่องเที่ยวภูเก็ต เพราะต้องท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง และรับประทานอาหาร ตามที่บริษัททัวร์บังคับทั้งสิ้น ไม่ได้มีโอกาสและรู้จักภูเก็ตในมุมที่ควรจะเป็น แถมบางครั้งถูกหลอกไปซื้อเครื่องรางของขลังตามวัดต่างๆ อีกด้วย
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)