ตร.สืบสวนภูเก็ตตามรวบได้แล้วผู้ต้องหาฆ่ารัดคอแม่บ้านที่แท้เป็นสามีที่หึงหวงผู้ตาย

จับแล้วผู้ต้องหาคดีฆ่ารัดคอแม่บ้านเสียชีวิตในห้องเช่าที่แท้เป็นสามี หลังก่อเหตุหนีขึ้นรถทัวร์หวังไปกบดานที่กรุงเทพ แต่จนมุมตำรวจสืบฯ ภูเก็ต จับได้ที่ประจวบ ระบุทำไปเพราะหึงหวงผู้ตาย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (3 ก.ค.) ที่ห้องประชุมกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเอก ท้วมเพชร อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต หลังตกเป็นผู้ต้องหาใช้เชือกไนล่อนรัดคอฆ่า น.ส.ฝนทิพย์ ไชยกุล อายุ 39 ปี ชาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นภรรยาที่แยกกันอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน

โดย เหตุเกิดภายในห้องเช่าของแมนชั่น แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เวลาประมาณ 05.00 น.ของวันที่ 2 ก.ค.62 ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์หลบหนีออกจาก จ.ภูเก็ต ไปยังพื้นที่รอยต่อ จ.ตรัง และนครศรีธรรมราช ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไปอย่างทันที พบว่าภายหลังไปถึง อ.กะปาง นายเอกฯ ได้นำลูกไปฝากไว้กับญาติ แล้วขึ้นรถโดยสารไปยังกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเส้นทาง และ ปลายทางช่วยตรวจสอบ

ต่อมาในเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 2 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตำรวจทางหลวง ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ตรวจพบนายเอก ฯ ผู้ต้องหาเดินทางไปกับรถโดยสารประจำทางสายหาดใหญ่  -กรุงเทพ จึงได้เชิญตัวลงจากรถและซักถามข้อมูล และจับกุมตัวมาสอบสวน ชั้นจับกุมผู้ต้องหา ให้การรับว่า ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาจนถึงแก่ความตายจริง โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้ระแคะระคายว่าภรรยาแอบคบหาชายอื่นที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ค อีกทั้งยังบล็อกเฟซบุ๊คของตน เพื่อไม่ให้รู้ถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยวันเกิดเหตุ ( 2 ก.ค.) ตนได้ขอดูโทรศัพท์ของภรรยา แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้ดู ด้วยความโมโหจึงลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาและใช้มือบีบคออย่างแรงกระทั่งภรรยาสลบแน่นิ่งไป

หลังจากนั้นตนจึงใช้เชือกไนล่อนขนาดเล็กรัดคอภรรยาซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่าภรรยาเสียชีวิตลงแล้ว หลังก่อเหตุได้พาลูก ทั้ง2 คน ไปฝากไว้กับแม่ของตนใน จ.ตรัง โดยฝากให้แม่ช่วยดูแลลูกๆ พร้อมทั้งบอกกับแม่ว่ารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป และ คงไม่มีโอกาสดูแลแม่กับลูกๆ อีกต่อไปแล้ว จากนั้นตนได้เดินทางไปขึ้นรถทัวร์โดยสารประจำทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ หวังหลบหนี แต่ก็เตรียมใจเอาไว้บ้างว่า อาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ระหว่างทาง และ ก็มาถูกจับจริง ๆ

พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวด้วยว่า คดีนี้สามารถคลี่คลายและจับกุมตัวได้ภายใน 12 ชม.ก็เพราะหลายๆ หน่วยช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สภ.เมืองภูเก็ต ,กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, ชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด,ชุดสืบสวน สภ.กะปาง ,เจ้าหน้าที่ทหาร ร.25 พัน 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต จะเห็นว่าหากช่วยกันแบบนี้แล้วก็สามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว