ตร.นำพระลูกวัดสอบสงสัยฆ่าเด็กวัดชาวพม่า รอผลพิสูจน์หลักฐานแจ้งข้อหา

โพสเมื่อ : Sunday, August 6th, 2017 : 2.02 pm

คุมตัวพระลูกวัด ต้องสงสัยฆ่าโหดเด็กวัดชาวเมียนร์ม่าสอบเครียด เบื้องต้นยังปฎิเสธ ตำรวจส่งหลักฐานทั้งมีด จีวรเปื้อนเลือดที่ถูกนำไปเผาทำลายแต่เผาไม่หมด รวมทั้งส่งตัวอย่างเลือดตรวจพิสูจน์ ขณะที่เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหาเสพยาหลังตรวจพบฉี่ม่วง

จากกรณีเกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง waiphyo aung อายุ 17 ปี เด็กวัด สัญชาติเมียนร์ม่า รวม 15 แผล เสียชีวิตหน้ากุฎิ หลังที่ 6 ของวัดเทพกระษัตรี(วัดบ้านดอน) ม.4 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ลงมือฆ่าโหดครั้งนี้น่าจะเป็นคนใกล้ชิด กับ ผู้ตายและ มีเรื่องทะเลาะกันแล้วเก็บความแค้นมาลงมือฆ่าโหด

 

ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค.)  พ.ต.ท.อำนวย ไกรวุฒิอนันต์ รองผกก.ป.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากพฤติกรรมของคนร้ายโหดเหี้ยม ลงมือฆ่ากันในบริเวณวัด โดยไม่กลัวบาปกรรม หลังจากเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทั้งของ สภ.ถลาง และชุดสืบสวนของ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เพื่อติดตามคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งมีการตรวจกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง และ เส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี นอกจากนั้นมีการสรุปประเด็นการฆ่าโหด ซึ่งพบว่าประวัติของผู้ตายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน และคาดว่าผู้ตายอาจจะไปรู้เรื่องความลับของคนร้าย ทำให้คนร้ายตามมาฆ่าปิดปาก

อย่างไรก็ตามในการสอบปากคำพยาน และคนที่อยู่ในวัด ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญพระลูกวัดทั้งหมดมาให้ปากคำ แต่มีพระลูกวัด คือ พระกิตติศักดิ์ หรือ นายกิตติศักดิ์ สงคราม อายุ 38 ปี ไม่ยอมให้ปากคำ รวมทั้งท่าทางมีพิรุธ และจากการสอบประวัติพบว่าพระรูปดังกล่าวเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และ เคยก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายมาแล้วเมื่อปี 50 โดยพระกิตติศักดิ์ เพิ่งพ้นโทษมา และมาบวชที่วัดที่เกิดเหตุได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งจากการสอบปากคำในเบื้องต้นพระกิตติศักดิ์ ให้การปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจหาสารเสพติด พบว่า ปัสสาวะสีม่วง จึงให้ทำการลาสิกขา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย ”

ส่วนกรณีตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าเด็กวัดชาวพม่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บลายนิ้วมือแฝงที่เกิดเหตุและพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุซึ่งมีทั้งมีดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จีวรเปื้อนเลือดที่ถูกนำไปเผาทำลาย แต่ปรากฏว่าไฟเผาไม่หมด รวมทั้งตรวจ DNA  ของพระกิตติศักดิ์ เพื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เจอในสถานที่เกิดเหตุเพื่อเปรียบเทียบหากตรงกันเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป