ตร.ถอนประกันผู้บริหารทรานลี่ส่งศาลฝากขัง12 วัน /คนท่องเที่ยวให้กำลังใจรัฐ

รองผู้บังคับการภูเก็ตเผยผู้ต้องหารายสำคัญ “กฤชกร รุ่งมงคลนาม” เข้าพบตำรวจแล้ว พร้อมถอนประกันส่งตัวฝากขังนัดแรก 12 วัน มั่นใจอีก 2 เดือนรวบรวมสำนวนเสร็จส่งฟ้องศาลได้ ด้านผู้ประกอบการเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยวภูเก็ต มอบดอกไม้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐหลังจับกุมดำเนินคดีผู้บริหารบริษัททรานลี่ฯ นอมินีต่างชาติ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 15 ก.ค.) ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หอการค้า และ ประชาชนทั่วไป เช่น นายจรัล ส่างสาร เลขาธิการหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย วัฒนาพรินทร สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพภูเก็ต นางสาวอรทัย อายุพงศ์ รองประธานชมรมมัคคุเทศก์อันดามัน ตัวแทนแทนจากสมาคมท่องเที่ยวอันดามัน และตัวแทนจากภาคประชาชน ร่วมกันมอบดอกเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ร่วมกันปราบปรามและจับกุมบริษัท ทรานลี่ฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับนอมินีที่ทางด้านการท่องเที่ยว โดยมีนายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับมอบ

นายจรัล ส่างสาร เลขาธิการหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางภาคธุรกิจ กล่าวว่า การมามอบช่อดอกไม้ให้กับทางหน่วยงานภาครัฐในครั้งนี้เพื่อขอบคุณหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาและปราบปรามนอมินีอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการในท้องถิ่นได้รับผลกระทบจากการประกอบธุรกิจของกลุ่มทุนใหญ่เป็นอย่างมาก เนื่องจากทำธุรกิจแบบครบวงจร ทำให้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

ขณะที่ นางสาวอรทัย อายุพงศ์ รองประธานชมรมมัคคุเทศก์อันดามัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้มัคคุเทศก์หรือไกด์คนไทยได้รับผลกระทบจากการประกอบธุรกิจของนอมินิเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะไม่ใช้คนไทยทำหน้าที่ไกด์ให้บริการนักท่องเที่ยว แต่จะใช้คนจีนมาทำหน้าที่แทน เมื่อทางจัดหวัดเข้ามาจัดการกับผู้ประกอบการที่เป็นนอมินี ส่งผลดีกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว และไกด์เป็นอย่างมาก

ส่วนตัวแทนจากสมาคมท่องเที่ยวอันดามัน กล่าวว่า ทางสมาคมเห็นด้วยและสนับสนุนให้จังหวัดจัดการกับผู้ประกอบการเหล่านี้ที่ไม่เคยให้ความสำคัญกับผู้ประกอบในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรถทัวร์ หรือเรือ แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าขณะนี้จะมีการสั่งปิดบริษัทในเครือของทรานลี่ฯ ไปแล้ว แต่ทางผู้ประกอบการก็ยังได้รับผลกระทบเหมือนเดิม เนื่องจากทางบริษัทดังกล่าวยังมีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากรถก็ยังใช้รถจากต่างจังหวัดเข้ามาวิ่งให้บริการ จึงอยากเรียกร้องให้ทางภาครัฐจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาดต่อไป

ด้านนายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เรื่องการปราบปรามนอมินีถือเป็นนโยบายสำคัญที่ทางรัฐบาลมอบหมายให้ทางจังหวัดดำเนินการ ซึ่งทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเฉพาะโดยมีตนเป็นประธานคณะทำงาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงานรวมทั้งทางตำรวจ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสำเร็จในการดำเนินการกับบริษัทใหญ่อย่างทรานลี่ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการประสานข้อมูลร่วมกันจนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในการที่จะส่งฟ้องศาลต่อไป ซึ่งในการดำเนินการนั้นทางจังหวัดยังมีเป้าหมายที่จะต้องตรวจสอบอีกจำนวนมาก

ขณะที่พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า  การจับกุมผู้บริหารบริษัททรานลี่ และตรวจสอบบริษัทที่เกี่ยวข้องในเครือทั้ง 17 แห่งนั้นเกิดจากความร่วมมือของคณะทำงานทุกฝ่าย ซึ่งจากการประชามร่วมกันทางคณะทำงานได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบบริษัทนี้ก่อนเนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ทางคณะทำงานโดยเฉพาะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐานนานกว่า 3 เดือน จนสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้จำนวน 2 ราย คือ นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม  และนายวีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล เป็นบุคคลต่างด้าวแต่อ้าวว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทยให้เจ้าหน้าที่ออกบัตรประชาชนแล้วนำไปจดทะเบียนนิธิบุคคลประกอบธุรกิจนำเที่ยว

สำหรับนายกฤชกร ได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายวีระชัย กำลังอยู่ระหว่างหลบหนี โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหาด้วยกัน ประกอบด้วย 1. เป็น คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต,2.ใช้หรือแสดงบัตรประชาชนอันเกิดจากการยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการปกปิด ข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที 3.แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ประชาชนหรือผู้อื่นเกิดความเสียหาย  และ 4 แจ้งให้เจ้าพนักงาน ผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร ราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายกฤชกร นั้นล่าสุด นายกฤชกร ได้มาพบกับพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวานนี้ ( 14 ก.ค.) หลังถูกเรียกให้มารายงานตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งถอนประกัน พร้อมนำตัวนายกฤชกร ไปขออำนาจศาลจังหวัดภูเก็ตฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม โดยในส่วนของตำรวจได้เสนอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ส่วนการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการสอบปากคำไปแล้วหลายปากเพื่อรวบรวบพยานหลักฐานและทำสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป ซึ่งคาดว่าในการรวบรวมพยานหลักฐานนั้นจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือนก็น่าจะสามารถส่งฟ้องศาลได้ ส่วนกรณีบริษัทต่างๆทั้ง 17 บริษัทที่อยู่ในเครือข่าย ทราบว่าขณะนี้ได้มีการสั่งปิดทั้งหมดแล้ว