ตรวจ สภ.ถลาง ร่วมชุดสืบจังหวัดตามรวบแล้วหนุ่มโชว์ปืนกลางถนน

โพสเมื่อ : Saturday, March 23rd, 2019 : 8.22 pm

ตร.ถลางร่วมกับชุดสืบสวนจังหวัดภูเก็ต รวบแล้วหนุ่มโชว์ปืนกลางถนน พบเป็นปืนบีบีกัน กระสุนหัวลูกปราย สารภาพไม่ตั้งใจ แค่ยกมือโบกให้รถคันหลังไปก่อน โดยลืมว่ามีปืนอยู่ในมือ

จากกรณี เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ค ชื่อ “ธิว ธิว” ได้โพสต์ ภาพนิ่งและวีดิโอคลิปความยาวประมาณ 0.18 นาที ลงในกลุ่ม “ขับรถแบบนี้ต้องประจาน ภูเก็ต” พร้อมข้อความระบุว่า “นึกว่ามีเรื่องกับเรา ตำรวจถ้าอยู่ในกลุ่มนี้ตามสืบสวนหน่อยครับ เกรงจะโปงปาง ที่อื่น เหตุเกิดเวลาประมาณ 10 โมงเช้านี้เองครับ. สถานที่ ใกล้ไทวัสดุ ภูเก็ต”

โดยในคลิปดังกล่าวเป็นภาพจากกล้องหน้ารถของผู้โฑสต์ แสดงให้เห็นภาพขณะรถเก๋งฟอร์ดสีแดง ทะเบียน กต 467x บุรีรัมย์ ขับแซงมาจากทางเลนขวาและเปิดไฟเลี้ยวก่อน เลี้ยวปาดเข้าเลนซ้ายกระทันหัน ซึ่งขณะที่ปาดนั้นคนขับได้เปิดกระจกและชักอาวุธปืนพกสั้นชูยื่นออกจากกระจกรถ ก่อนชักกลับอย่างรวดเร็ว

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ สภ.ถลาง พ.ต.อ.ธีระวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน  รองผกก.สส.สภ.ถลาง  พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชำนาญกิจ รองผกก.ป.สภ.ถลาง พ.ต.ท.กิตติภูมิ ถิ่นถลาง สว.(สอบสวน)สภ.ถลาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ถลาง และชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันสอบปากคำ นายมานพ สังข์พันธ์ อายุ 35 ปี  ชาว ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ผู้ก่อเหตุชักอาวุธปืนออกมาโชว์ขณะขับรถ

หลังควบคุมตัวได้ที่ ห้องพักคนงานไม่มีเลขที่ ม.1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนลูกโม่แบบใช้แรงดันแก๊ส(BBGUN)ใช้ยิงกับเครื่องกระสุนปืนแบบลูกปรายหัวเหล็ก ความยาวลำกล้อง 2.5 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก พร้อมอุปกรณ์บรรจุเครื่องกระสุนแบบลูกปรายหัวเหล็ก จำนวน 6 อัน และเครื่องกระสุนแบบลูกปรายหัวเหล็ก จำนวน 102 นัด

นายมานพ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาโครงการที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ถลาง ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจากตัวเมืองภูเก็ต มุ่งหน้าสู่ อ.ถลาง เมื่อมาถึงบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ได้มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งตามหลังมา ซึ่งขณะนั้นตนเองขับอยู่เลนซ้ายสุด รถคันดังกล่าวพยายามกระพริบไฟไล่ตนเอง เหมือนพยายามจะแซงซ้าย  ซึ่งตนเองจะหลบไปด้านขวาก็ไม่ได้ เพราะรถทั้งหมดจะพยายามเบี่ยงเข้าซ้ายทั้งหมดเพราะข้างหน้าเป็นจุดกลับรถ

จากนั้นรถคันดังกล่าวได้บีบแตรใส่อีก 1 ครั้ง ก่อนจะแซงขึ้นไป เมื่อแซงไปได้สักพักก็เบรกกะทันหัน ตนเองก็เบรกตามอย่างรวดเร็ว จากนั้นรถคันดังกล่าวได้ตัดไปเลนขวาและวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ ตนเองก็ขับต่อทางเลนซ้าย ต่อมารถคันดังกล่าวได้ปาดเข้าซ้ายอีกครั้ง ตนเองเห็นดังนั้นจึงตัดไปเลนขวาเพื่อที่จะแซงขึ้นไปเพราะไม่อยากมีปัญหากับรถคันดังกล่าว แต่เมื่อตนวิ่งไปเลนขวาและพยายามเร่งเครื่องแซง รถคันดังกล่าวก็เร่งเครื่องตามจนตนเองแซงไม่ได้

เมื่อใกล้ถึงจุดกลับรถซึ่งบังคับให้รถทางตรงต้องหลบเข้าเลนซ้าย ตนเองจึงชะลอรถและหักกลับเข้าเลนซ้ายตามหลังรถคันดังกล่าว  รถคันดังกล่าวได้เบรกกะทันหันอีกครั้งทำให้ปืนที่วางอยู่ข้างตัวของตนร่วงลงไปบนที่วางเท้า ตนเองเกรงว่าปืนจะเข้าไปขัดกับเบรกรถจึงก้มเก็บและถือไว้ในมือ เมื่อผ่านจุดกลับรถตนเองตัดไปจึงวิ่งเลนขวาอีกครั้ง และเร่งเครื่องขึ้นไป แต่เนื่องจากข้างหน้าเป็นถนนขรุขระและมีการซ่อมถนนและนอกจากนี้ยังมีรถตู้(คันถ่ายคลิป)ขับตามจ่อท้ายมาอย่างกระชั้นชิด

ตนเองจึงต้องรีบเปลี่ยนเลนกลับไปทางซ้าย และพยายามจะโบกรถคู่ก็กรณีให้แซงขึ้นไปก่อน แต่ลืมไปว่า ในมือถือปืนไว้ จึงเป็นดังภาพที่ปรากฏทางโซเชี่ยล ซึ่งตนเองยอมรับว่าเผลอเรอที่เอามือที่ถือปืนโผล่ออกไปโดยไม่ได้เก็บอาวุธที่ถืออยู่ก่อน  และยอมรับผิดที่พกพาอาวุธไป แต่ไม่ได้เจตนาที่จะเอาอาวุธมาโชว์หรือมีเจตนาที่จะทำร้ายใคร อยากฝากสังคมว่าไม่ได้ตั้งใจ และขอโทษกับสิ่งที่ทำไปด้วยความเผลอเรอ และยอมรับว่าการกระทำลงไปนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย

ด้านพ.ต.อ.ธีระวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของอาวุธปืนชนิดที่ใช้ก่อเหตุนั้น ถึงแม้เป็น ปืนลูกโม่แบบใช้แรงดันแก๊ส(BBGUN) แต่ใช้ยิงกับเครื่องกระสุนปืนแบบลูกปรายหัวเหล็ก สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้ โทษจึงมีความรุนแรงเทียบเท่าอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”