ตม.ภูเก็ตลุยจับช่างภาพฟรีเวดดิ้งต่างชาติแฝงตัวมาในคราบนักท่องเที่ยว

โพสเมื่อ : Thursday, January 10th, 2019 : 11.48 am

ตม.ภูเก็ตร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จับกุมช่างถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แฝงตัวมาในคราบ นักท่องเที่ยวลักลอบเข้ามาทำงาน ได้ผู้ต้องหา 7 คน ตรวจสอบพบมีการเซ็นสัญญาว่าจ้างมาจากต่างประเทศ

ตามนโยบายของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดของคนต่างด้าวภายใต้ปฏิบัติการ Operation X-ray Outlaw Foreigner นำโดย พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีช่างภาพและทีมงานต่างชาติมาถ่ายภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง .ในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดภูเก็ตโดยไม่ได้ขออนุญาตทำงานจำนวนมาก

ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตามจุดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมแบ่งชุดการทำงานลงพื้นที่ทันที ประกอบด้วย บริเวณวัดกะทู้ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และบริเวณชายหาดกะตะน้อย อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนต่างด้าวชาติ ใช้ถ่ายพรีเวดดิ้ง โดยทีมงานถ่ายภาพเป็นคนต่างด้าวทั้งหมด ซึ่งถือวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยแต่กลับมาแอบรับงานถ่ายภาพแต่งงาน

โดยการจ้างงานดังกล่าวมีการทำสัญญาว่าจ้างมาจากเมืองจีน มีการนัดแนะสถานที่สำหรับใช้ในการถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ซอยรมณีย์ ถนนถลาง ร้านกาแฟที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมเช็กอิน หาดกมลา วัดกะทู้ วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) วัดลัฏฐิวนาราม (วัดใต้) แหลมพรหมเทพ หาดสุรินทร์ หาดในยาง เป็นต้น โดยมีการกำหนดตัวผู้ปฏิบัติงานไว้ชัดเจนว่าใครเป็นช่างภาพ ใครเป็นผู้ประสานงาน และใครเป็นช่างแต่งหน้าทำผม

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ สามารถจับกุมคนต่างด้าวทั้งหมด 7 คน และ แจ้งข้อกล่าวหาคนต่างด้าวได้ทราบว่า ตนมีความผิดในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตทำงาน (ม. 8 พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)” และ “เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แต่ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต (ม. 37(1)พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 พร้อมนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสภ.กะรน และ สภ.กะทู้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป