“ดุษฎี” มั่นใจในหลักฐาน คดีลักทรัพย์ที่ จ.ตรัง  น้องพลอยเป็นแพะ

รองปลัดกระทรวงยุติธรรมมั่นใจหลักฐาน ทางนิติวิทยาศสตร์ เอกสารและพยานบุคคล จะสามารถทำให้ศาลอุทธรณ์เปลี่ยนคำพิพากษาได้ในคดีลักทรัพย์ที่น้องพลอย สาวสปาในจังหวัดภูเก็ตตกเป็นผู้ต้องหา 

จากกรณี ที่ น.ส.ปวิตรา หรือ น้องพลอย กองกำพล ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ในพื้นที่ จ.ตรัง เมื่อปี 2554 โดยถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2554 ที่รีสอร์ท แห่งหนึ่ง ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้ยานอนหลับผสมในสุราให้นายศิริชัย กัลพัตร์ ผู้เสียหายดื่มจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายนอนหลับหมดสติไปจากนั้นจึงได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหายจำนวน 4 รายการ รวมเป็นเงิน 759,000 บาท พาหลบหนีไป พนักงานสอบสวน สภ.หาดสำราญ รับเป็นคดีอาญาที่ 90/2554

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ห้องประชุมเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมสรุปคดีแพะสาวสปาจ.ภูเก็ตหลังจากเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.)ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.ท.ณพลพงศ์ กมลอาสน์ นายนิธินัย พาติกาบุตร เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายคมหาญ ไปสุวรรณ นิติกร กระทรวงยุติธรรม และ นางชญาทิพย์ จิตหลัง ยุติธรรม จังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
โดยได้มีการสรุปพยานหลักฐานต่างๆ ที่คณะทำงานได้ลงพื้นที่ ทั้งที่ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง โรงพยาบาลป่าตอง คลินิคทำฟัน ร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ ที่น้องพลอยเดินทางไปในช่วงที่ถูกกล่าวหาว่าไปก่อเหตุในพื้นที่ สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง ซึ่งเป็นพยานหลักฐานทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และสถานที่ต่างๆ ได้เพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ศาลอุทธรณ์ จ.ตรัง เปลี่ยนคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจังหวัดตรัง ในคดีที่น้องพลอยตกเป็นผู้ต้องหาได้ 

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุมว่า ผลจากการส่งเจ้าหน้าที่ฯลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีของน้องพลอย ในขณะนี้มั่นใจอย่างเต็มที่ว่า นางสาวพลอย ไม่ใช่ผู้กระทำความผิดตัวจริง เนื่องจากมีการตรวจสอบพบหลักฐานใหม่ หลายชิ้น เพื่อให้เกิดความแน่ชัดทางทีมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เตรียมขอความร่วมมือไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้เข้ามาช่วยตรวจสอบลายนิ้วมือในวันเกิดเหตุ เพื่อเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของนางสาวพลอยในปัจจุบันว่าตรงกันหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการได้มาของชื่อตามทะเบียนราษฏร์ที่มีการนำไปขอศาลจังหวัดตรังขออนุมัติออกหมายจับ นอกจากนั้นได้มีการพูดคุยกับ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เกี่ยวกับคดีดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทีมดีเอสไอ ได้พยานหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่า นางสาวพลอยเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยหลังจากนี้ จะได้มีการนำหลักฐานที่ได้ใหม่เข้าสู่กระบวนการเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ให้กับนางสาวพลอย ส่วนสัปดาห์หน้าจะให้นางสาวพลอยเข้าเครื่องจับเท็จ เพื่อเป็นการทดสอบความจริงอีกขั้น

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบข้อมูลพยานว่า มีกลุ่มคนที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในลักษณะเดียวกันแบบนี้ในพื้นที่จังหวัดตรัง ซึ่งจะได้มีการประสานขอความร่วมมือไปยังตำรวจในพื้นที่เพื่อติดตามข่าว เนื่องจากอาจมีความเป็นไปได้ว่า อาจเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริงที่ยังคงลอยนวลอยู่ ซึ่งต้องมีการติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด