“ดิอเวนิว ดิเวลล็อปเมนท์” เจ้าของโครงการ “อเวนิว@นาบอน” เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ปลายปีนี้ในพื้นที่รัษฎา จ.ภูเก็ต

โพสเมื่อ : Saturday, June 23rd, 2018 : 11.20 am

“ดิอเวนิว ดิเวลล็อปเมนท์” เจ้าของโครงการ “อเวนิว@นาบอน” เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ปลายปีนี้ในพื้นที่รัษฎา จ.ภูเก็ต อีก 180 ยูนิต มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท หลังโครงการแรกประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม เจาะลูกค้ากลุ่มต้องการบ้านหลังแรก ราคา 2 ล้านบาทต้นๆ ความต้องการยังมีสูง

นายกร วรโชคอำพล กรรมการบริหาร บริษัท ดิอเวนิว ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด เจ้าของโครงการ อเวนิว@นาบอน เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้เข้ามาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้โครงการ “อเวนิว@นาบอน” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านนาบอน ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท เนื้อที่ 18 ตรว. โดยได้เปิดขายไปเมื่อปีที่ผ่านมา

ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในภูเก็ตเป็นอย่างดี ในช่วงเวลา 10 เดือน มียอดจองเข้ามาสูงถึง 90% และขณะนี้ได้มีการส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าแล้ว เหลือยอดขายประมาณ 10 หลังเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดโครงการได้หมดในเร็วๆนี้

นายกร กล่าวเพิ่มว่า จากความสำเร็จของโครงการอเวนิว@ฉลอง ทำให้บริษัทวางแผนที่จะเปิดโครงการบ้านจัดสรรโครงการใหม่ในพื้นที่ซอยพัชรี บ้านกูกู้ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชื่อโครงการ “อเวนิว@รัษฏา” บนเนื้อที่ 18 ไร่ มีทั้งหมด 180 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ บ้านแฝด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาทเศษๆ มูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท โดยจะเปิดการขายในช่วงเดือน พ.ย.61 นี้ และคิดว่าโครงการนี้น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนโครงการแรก

เนื่องจากความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยในราคาสองล้านบาทต้นๆ ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้า ที่ต้องการบ้านหลังแรก เพื่ออยู่อาศัยแทนการเช่า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในภูเก็ตยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอีกจำนวนมาก ประกอบกับทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย ใกล้ชุมชน ใกล้สถานศึกษา สถานีขนส่ง และสามารถเดินทางเชื่อมโยงในจุดต่างๆ ของภูเก็ตได้สะดวกและรวดเร็ว

“มั่นใจว่าโครงการใหม่ที่จะกำลังจะเปิดในช่วงเดือน พ.ย.ปีนี้ จะได้รับการตอบรับดีเหมือนโครงการแรก จากความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยในภูเก็ต ที่ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ยังมีอยู่สูง เราคาดหวังว่าจะสามารถปิดโครงการได้ภายใน 2 ปี” นายกร กล่าวในที่สุด