ดับอีก 1 รายเหยื่อรถทัวร์ตกเขาที่ป่าตอง ผู้ว่าเร่งประชุมแก้ปัญหา

เหยื่อรถทัวร์ลมเบรคหมด เสียหลักพลิกตะแคงขณะลงเขาป่าตอง ตายเพิ่มอีกราย พ่อเมืองภูเก็ตรุดเยี่ยมให้กำลังใจท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมเรียกประชุมด่วนหน่วยงานเกี่ยวข้องหาสาเหตุการเกิดอุบัติซ้ำซากในพื้นที่ ต.ป่าตอง

จากกรณี มีอุบัติเหตุรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวจีน หมายเลขทะเบียน 30 – 0902 พังงา เบรคแตกทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำเหตุเกิดที่บริเวณทางลงเขาป่าตอง ซอยข้างวัดสุวรรณคีรีวงก์ ถนนพิสิษฐ์กรณีย์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ทำให้มีนักท่องเที่ยว บาดเจ็บ 24 ราย เสียชีวิตคาที่ 1 ราย  คือ ด.ช. LYU JLE RUI สัญชาติจีน อายุ 10 ขวบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ บ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก  อย่างไรก็ตามหลังนำนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พบว่ามีเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย คือ MR.LYU FEl อายุ 36 ปี พ่อของเด็กชาย LYU JLE RUI สัญชาติจีน ซึ่งเสียชีวิตที่เกิดเหตุ

ขณะที่เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 ก.ค.) นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมี นพ.เฉลิมพงศ์ สุคนธพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นำยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ตึกศัลยกรรมประสาท จำนวน 3 คน จำนวน 4 คน

นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการเยี่ยมผู้บาดเจ็บว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดูแลผู้บาดเจ็บทุกคนเป็นอย่างดี หลังจากนี้จะมีการจัดห้องพิเศษสำหรับพักฟื้นจนกว่าอาการจะหายดี และเดินทางกลับประเทศ จากการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฯ ทราบว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากรถเบรคแตกขณะลงจากเขาป่าตอง ก่อนที่จะพลิกคว่ำ และลื่นไถลไปชนกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบ้านเรือนบริเวณดังกล่าวเสียหาย  และมีผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตดังกล่าว

นายนรภัทร กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ มีอุบัติเหตุรถทัวร์บรรทุกนักท่องเที่ยวเสียหลักตกเขามาแล้ว  3 ครั้ง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาด้านวิศวกรรมจราจร เนื่องจากมีสภาพเป็นโค้งหักศอก ไหล่ทางมีความลาดชัน นอกจากนี้ยังเป็นปัญหาที่เกิดจากสภาพรถอยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยปลอดภัย และคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง  สำหรับการแก้ไขปัญหาตนเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และ ระยะยาว เช่น วิศวกรรมจราจร  ป้ายจราจร สัญญาณจราจร ทำให้มีความชัดเจนขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาผิวถนนลื่นเกินไปหรือไม่ เพื่อลดปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ ความชำนาญของผู้ขับขี่รถโดยสาร และ สภาพรถก็เป็นปัจจัยสำคัญ อยากให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว บริษัททัวร์ท่องเที่ยวให้ความสำคัญมีการตรวจสอบสมรรถนะ ของรถโดยสารสาธารณะให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งานเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและได้อีกทางหนึ่ง และในเบื้องต้นทราบว่า โดยปกติรถใหญ่ที่ขึ้นลงเขาป่าตองจะมีการกำหนดระยะเวลา แต่ช่วงดังกล่าวพ้นห้วงเวลาที่กำหนดแล้ว

นายนรภัทร กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมาได้มีการเสนอขอโครงการจัดทำอุโมงค์ทางลอดป่าตอง ล่าสุดทางการทางพิเศษฯ เป็นผู้รับผิดชอบ และ ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ต่างๆ  มีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก และไม่น่าจะมีปัญหา โดยอยู่ขั้นตอนพิจารณาการลงทุน

ส่วนกรณีที่มีการเสนอไม่ให้มีรถบัสขนาดใหญ่ขึ้น – ลงเขาป่าตองนั้น ทราบว่าก่อนหน้านี้เคยมีการเสนอแล้วเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งจะได้มีการมาหารือกันอีกครั้ง รวมไปถึงเรื่องของสภาพรถ และอื่นๆ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งสร้างความเสียหายมหาศาล รวมทั้งกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย  จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องมาร่วมมือแก้ปัญหากันอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตามโอกาสนี้ นายนรภัทร ยังได้มีการพบปะพูดคุยกับทาง น.ส.MA CUI HONG รองกงสุล ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดสงขลา ทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงานกงสุลประจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกล่าวขอบคุณจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เข้าไปช่วยดูแลนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุเป็นอย่างดี แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา  จึงอยากฝากให้ทางจังหวัดได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัย ในส่วนของรถที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เดินทางเข้ามาในจังหวัดเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเป็นช่วงปิดภาคเรียนจึงทำให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาจะเป็นกลุ่มของนักเรียน หรือกลุ่มที่มาเป็นครอบครัวกับผู้ปกครอง และยังมีในส่วนของผู้สูงอายุด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ทัศนัย โอฬาริกเดช ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับคนขับรถทัวร์คันที่เกิดเหตุ ว่า ขณะนี้ได้มีการนำตัวมาสอบปากคำไว้เรียบร้อยแล้ว จากการสอบปากคำ ทราบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากเบรคลมหมด และ หักพวงมาลัยหลบจนรถพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะต้องรอหลักฐานการตรวจสภาพรถจากทางสำนักงานขนส่งฯ มาประกอบ ว่า เป็นความประมาทหรือเกิดจากเหตุอื่น ซึ่งในเบื้องต้นจะต้องแจ้งข้อหา  ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต