ชื่นชม! อส.เมืองภูเก็ตพบกระเป๋า นทท.ที่วัดฉลอง บึ่งรถ จยย.หา 2 ชั่วโมงส่งคืน

โพสเมื่อ : Sunday, December 31st, 2017 : 2.19 pm

 

 อส.เมืองภูเก็ตพบกระเป๋าสตางค์ เอกสารนักท่องเที่ยวลืมทิ้งไว้ที่วัดฉลอง วัดดังในจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบพบเจ้าของพักโรงแรมแห่งในตัวเมืองบึ่งรถจักรยานยนต์จากวัด ออกตามหานานกว่า 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวใจดีมอบเงินเป็นสินน้ำใจไม่ยอมรับบอกทำด้วย.ใจ

กลายเป็นกระแสดังในโลกโซเชียลอีกแล้ว เมื่อมีคนนำภาพและข้อมูลการทำความดีของหนุ่มคนนี้ไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก และ กลุ่มไลน์ต่างๆ โดยมีข้อความระบุ ว่า “มีเรื่องดีๆอยากแชร์ค่ะ พี่คนนี้เขาทำงานอยู่อำเภอและเป็นคนดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่วัดฉลอง เก็บกระเป๋าเงินลูกค้าเราได้ที่วัดฉลอง

เขาขับรถมอเตอร์ไซค์มาจากฉลองมาหาลูกค้าที่สามกองเพลส หลังรู้ว่าลูกค้าพักที่นี่เพราะเปิดกระเป๋าเงินลูกค้าดูแล้วมีชื่อโรงแรมในใบเสร็จ เลยขับมอเตอร์ไซค์มาหาที่นี่ และเห็นว่ามีvisa และ passports อยู่และเงินอีกจำนวนเยอะ ลูกค้าให้เงินพี่เขาก็ไม่รับ  เห็นแล้วดีใจแทนลูกค้าเลยค่ะ”

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า อส.คนดังกล่าวคือ นายหมู่โท นพนริศร์ ถาวรมาศ อส.อำเภอเมืองภูเก็ต จากการสอบถามว่าก่อนเกิดเหตุ หลังจากออกเวร ปฏิบัติหน้าที่ จากอำเภอ ก็ได้รับมอบหมายจากนายวิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต และ นายดนัย ใจแข็ง ปลัดอําเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ให้ไปประจำจุดดูแลความปลอดภัยที่วัดฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดภูเก็ต ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปไหว้หลวงพ่อแช่ม เพื่อขอพรปีใหม่ รวมทั้งเพื่อหาข่าวด้านความมั่นคง และดูแลความสะดวกปลอดภัย ของนักท่องเที่ยว

ซึ่งขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้รับแจ้งจากคนงานว่า นักท่องเที่ยวลืมกระเป๋าไว้ที่บริเวณจุดวางรองเท้า จึงนำมาตรวจสอบ พบว่าภายในกระเป๋ามีเงินอยู่จำนวนมาก รวมทั้งเอกสารต่างๆ และใบเสร็จรับเงินการเข้าพักที่โรงแรมสามกองเพลส อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงคิดว่าจะต้องนำกระเป๋าดังกล่าวไปส่งคืนให้กับเจ้าของ เพราะคิดว่าเจ้าของคงมีความกังวลหลังจากนั้นก็ตัดสินใจนำกระเป๋าใบดังกล่าวและขับรถจักรยานยนต์ไปยังโรงแรมดังกล่าวทั้งๆที่ไม่รู้ว่าโรงแรมอยู่ส่วนไหนของพื้นที่สามกอง

 

โดยใช้เวลาในการขับรถวนหาอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง ถึงพบโรงแรม และเข้าไปติดต่อที่เคาเตอร์เพื่อส่งมอบกระเป๋าให้กับนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่โรงแรมได้ประสานไปยังนักท่องเที่ยวให้ลงมารับกระเป๋าคืน ซึ่งสร้างความดีใจให้กับนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเป็นอย่างมาก และนักท่องเที่ยวไดส่งเงินจำนวนหนึ่งให้กับตนเพื่อเป็นสินน้ำใจ

แต่ตนแจ้งไปยังนักท่องเที่ยว ว่า ไม่ขอรับเงินดังกล่าว เพราะตนตั้งใจที่จะนำกระเป๋าและเงินทั้งหมดมาส่งมอบให้กับนักท่องเที่ยวด้วยความเต็มใจ ถือเป็นหน้าที่ของคนไทย และตนในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องดูแลให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และที่สำคัญสิ่งที่ตนทำ ทำแล้วสบายใจ และเป็นการทำความดีที่ไม่หวังผลตอบแทน