“ชายพิการ หัวใจไม่พิการ” โซเชียล แห่ชื่นชม พบกระเป๋า ตามหาส่งมอบคืนเจ้าของ

“ร่างกายพิการ หัวใจไม่พิการ” ชายเจ้าของร้านซ่อมทีวี พบโทรศัพท์-กระเป๋าสตางค์ นำส่งคืนให้เจ้าของ สาวโพสต์เฟสบุ๊ค ขอบคุณ คนแห่ชื่นชมกดไลด์ กดแชร์ เป็นข่าวที่ดีที่อยากให้ทุกคนเอาแบบอย่างเรื่องการมีน้ำใจ ไม่เอาทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นของตน

จากกรณีเจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ “Mingkwan PD” ได้โพสต์ชื่นชมชายพิการแขน-ขาขาด ที่พบกระเป๋าสตางค์แล้วส่งมอบคืนให้ ผ่านเฟสบุ๊ค (แจ้งข่าวสารแจ้งข่าวสาร แสดงความคิดเห็นกับเพจเสียงประชาชนคนภูเก็ต) ข้อความว่า “อยากให้ทุกคนได้รู้ค่ะ พี่คนนี้เขาพิการแค่ร่างกาย แต่หัวใจของพี่สมบูรณ์แบบมากค่ะ พี่เขาเก็บกระเป๋าของเราได้และก็กำลังจะไปแจ้งความเพื่อตามหาเจ้าของ แต่เราโทรเข้าไปที่เบอร์เราแล้วพี่เขาก็ให้เราไปรับคืนที่หน้าวัดเทพ อยากขอบคูณมากๆจิงๆนะคะ เพราะข้างในมีทั้งกระเป๋าตังและโทรศัพท์เลย ดีใจแบบปลื้มปริ่มมาก ยกมือไหว้หลายรอบมากๆ ขอบคุณจิงๆค่ะ ดีใจจนลืมขอเบอร์โทรและที่อยู่ของพี่เขาไว้ ถ้าใครพอรู้จักพี่เขาบอกหน่อยนะคะ อยากตอบแทนพระคุณเขาค่ะ” โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นชื่นชมและแชร์โพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก

ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นแบบอย่างแก่ทุกคนที่พบทรัพย์สินและนำกลับคืนสู่เจ้าของ ซึ่งสมควรที่จะได้รับคำชื่นชม ทำให้ผู้สื่อข่าว “phukethotnews” ได้โทรศัพท์หาผู้ที่พบกระเป๋าดังกล่าวทราบชื่อคือนายสมปอง จุ้ยพลับ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/104 ม.1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต อาชีพเจ้าของร้านซ่อมทีวี ร้านอยู่ที่บริเวณตลาดจตุจักร ติดอยู่กับโกดังจักรยานยนต์ญี่ปุ่นมือสองใกล้ร้านข้าวต้ม IMF  อ.เมืองภูเก็ต

นายสมปอง จุ้ยพลับ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ขณะที่ตนกำลังขับรถจักรยานยนต์อยู่ที่บริเวณสี่แยกใกล้วิทยาลัยอาชีวะศึกษาภูเก็ต พบกระเป๋าตกอยู่บนถนน ตนจึงลงไปเก็บเพื่อที่จะนำไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ประกาศหาเจ้าของ ในระหว่างนั้นลูกชายได้โทรศัพท์มาหา ตนจึงรีบไปหาลูกชายก่อนที่บริเวณใกล้วัดเทพนิมิต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อถึงวัดเทพนิมิต ได้มีเสียงโทรศัพท์มายังเครื่องโทรศัพท์ของผู้ที่ทำเครื่องตกไว้ ตนจึงรับสายและบอกว่าให้มารับโทรศัพท์และเอกสารอื่นๆด้วย เนื่องจากทำหล่นตกไว้ที่บริเวณสี่แยกใกล้วิทยาลัยอาชีวะศึกษาภูเก็ต ตนรอประมาณ 15 นาที ก็ได้มีหญิงสาวเจ้าของทรัพย์สินมารักระเป๋าดังกล่าว

สำหรับนายสมปอง จุ้ยพลับ หนุ่มใหญ่ผู้พิการซึ่งมีเพียงขาขวาและแขนขวา และเมื่อวันที่  28 ต.ค.2559 ได้เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต ด้วยรถวีลแชร์ ที่มีเพียงล้อ 2 ล้อและแกนเหล็ก และใช้เท้าขวาเป็นตัวขับเคลื่อน และบังคับทิศทาง เพื่อมุ่งหน้าไปถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร นอกจากนั้นเมื่อเดือนตุลาคมปี 2560 ก็ได้เดินทางไปร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร อีกด้วย โดยมีลูกชายคนเล็กและภรรยาคอยติดตามให้กำลังใจ ตลอดเส้นทาง