ชายกระเป๋าแดงส่งคืนแล้วโทรศัพท์ของนักศึกษาที่ถูกรถชนหลังโซเชียลแชร์สนั่น

โพสเมื่อ : Tuesday, April 11th, 2017 : 6.47 pm

ส่งคืนแล้วหนุ่มใหญ่หยิบโทรศัพท์มือถือของนักศึกษาเหยื่อรถขยะชนดับที่กระเด็นตกอยู่บนถนน หลังโลกโซเชียลแชร์ภาพจากล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ขณะที่คนหยิบโทรศัพท์อ้างไม่ตั้งใจแค่ไม่ต้องการให้รถทับซ้ำ แต่ใส่กระเป๋ามาแล้วลืมคืน และไม่กล้าเอาไปไว้ในบ้านรอรุ่งขึ้นอีกวันจึงนำไปคืนที่มหาวิทยาลัยของผู้เสียชีวิต

สำหรับความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุรถขนขยะชน 2 นักศึกษาชาย – หญิงเสียชีวิต เมื่อวานนี้ ( 10 เม.ย.) ที่บริเวณสามแยกซอยป่าหลาย ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งหลังเกิดเหตุมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาแชร์ในโลกโซเชียล ซึ่งเป็นภาพผู้ชายคนหนึ่งที่ก้มลงลงเก็บโทรศัพท์ของนักศึกษาที่เสียชีวิต ไป จนเป็นที่วิพากวิจารณ์กัน และประนาม พฤติกรรมกันอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.ท.สุธรรม รัตนสว่างวงศ์ สว.สส.สภ.ฉลอง กล่าวว่า จากการดูภาพกล้องวงจรปิดแล้วพบว่าชายคนดังกล่าวที่โลกโซเซี่ยลมิเดียมีการแพร่ภาพว่าเป็นบุคคลหยิบโทรศัพท์ไปนั้นมีเป้าหมายประสงค์ใด เพราะหากหยิบเพื่อเก็บไว้ให้น่าจะมอบให้ตำรวจแล้ว คนที่หยิบไปก็ไม่สมควรกระทำต้องรู้ว่าทรัพย์สินไม่ใช่ของเราก็อย่าหยิบไป โทรศัพท์นั้นมีความสำคัญกับครอบครัวของผู้ตายอย่างมาก บางครั้งอาจะมีข้อความสำคัญหรือภาพสำคัญอยู่ในโทรศัพท์ ที่เป็นความทรงจำของครอบครัว หากคนที่หยิบไปไม่กล้านำมาคืนก็ให้โทรมาแจ้งตำรวจว่ามีการวางไว้จุดใดเจ้าหน้าที่จะได้ไปเอามาคืนให้คอรบครัวของผู้ตาย บางครั้งหยิบไปเพราะความไม่ตั้งใจ แต่เมื่อสังคมกดดันก็ไม่กล้านำมามอบให้เจ้าหน้าที่ ก็สามารถแจ้งมาได้ที่ สภ.ฉลอง ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ มีการลงพื้นที่เพื่อสอบถามประชาชนแล้วว่ามีใครรู้จักชายคนดังกล่าวบ้างหรือไม่เพื่อมาตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

ต่อมาเวลา 11.40 น.ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ได้แชร์ภาพและข้อความผ่าน “เพจเสียงประชาชนคนภูเก็ต” ว่า จากกรณีที่มี แชร์ภาพบุคคลไม่ทราบชื่อ สะพายกระเป๋าสีแดง เก็บโทรศัพท์มือถือของผู้ประสบอุบัติเหตุ ไปนั้น เมื่อเวลา 11.40 น. วันนี้ ( 11 เม.ย.) บุคคลในภาพดังกล่าวได้ติดต่อทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อนำโทรศัพท์มือถือมาคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแจ้งเหตุผลว่า ก้มเก็บโทรศัพท์เพื่อไม่ให้รถเหยียบ และขณะนั้นได้จับคนขับรถขยะเพราะกลัวจะหลบหนีและพยายามกันไม่ให้โดนรุมประชาทัณฑ์ พอตำรวจและกู้ภัยมาถึง หลังจากนั้นจึงช่วยโบกรถ ตอนแรกที่ยังไม่ส่งมอบทรัพย์สินเพราะไม่รู้จะให้ใคร เช้าวันนี้ จึงเดินทางมาติดต่อทางมหาวิทยาลัยฯ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ อนึ่งทรัพย์สินดังกล่าว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จะเก็บรักษา และนำส่งมอบให้แก่ญาติผู้ประสบเหตุต่อไป มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง กับครอบครัวลูกศิษย์และผู้ประสบเหตุ ขอให้สู่สุขคติ ด้วยรักและอาลัย

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปหานายสราวุฒิ จาปัง หัวหน้างานกิจกรรมกองกิจการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ทราบว่า วันนี้ได้มีนายสุชาติ เพ็ชรศิริ อายุ 43 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้มาพบที่กองกิจการฯ เพื่อขอมอบโทรศัพท์ของนางสาวภณิชชา มิ่งคณิตตกุล ให้แก่ทางกองกิจการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฯ และขณะนี้กองกิจการฯได้มอบให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนศพนั้นญาติของผู้เสียชีวิตได้นำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่จังหวัดสลขลา

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสุชาติ เพ็ชรศิริ อายุ 43 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลในภาพที่มีการแชร์กันและเป็นคนที่หยิบโทรศัพท์ของผู้ตาย โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนเห็นโทรศัพท์ผู้ตายวางอยู่กลางถนนจึงเก็บไว้ในกระเป๋า เพื่อไม่ให้รถเหยียบโทรศัพท์ ในระหว่างนั้นตนเห็นคนขับรถบรรทุกขยะที่ชนผู้ตายพยามหลบหนี ตนจึงวิ่งไปช่วยจับคนขับรถขยะไว้ จากนั้นก็พาไปอยู่ที่ร้านค้าห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ และรอตำรวจมารับตัว หลังจากนั้นก็ได้วิ่งมาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพื่อไม่ให้รถเหยียบซ้ำศพ หลังจากเหตุการณ์คลี่คลายก็ได้กลับบ้านเมื่อถึงบ้านก็นึกออกว่าได้เก็บโทรศัพท์ผู้ตายไว้ แต่เป็นช่วงดึกแล้วไม่รู้ว่าจะนำไปคืนให้ใคร ในใจคิดว่าเช้าวันนี้(11 เม.ย.) จะนำไปมอบให้กับทางคณะอาจารย์ที่วิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ตทันที โดยไม่คิดจะเอาเป็นของตัวเอง

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาตนตกใจมากเมื่อเห็นภาพตนเองที่ถูกแชร์อยู่ในโซเชียลมิเดีย ซึ่งเป็นรูปตนที่สะพายกระเป๋าแดงและมีการเขียนข้อความว่าเป็นคนขโมยโทรศัพท์ของผู้ตาย “ตนขอสาบานว่า ในใจไม่คิดจะเอาทรัพย์สินของผู้ตายมาเป็นของตัวเอง” เมื่อคืนก็ไม่กล้าเอาไว้ในบ้าน เพราะกลัวเหมือนกัน นอนไม่หลับเห็นแต่รูปศพของผู้ตายทั้ง 2 คน เพียงตนลืมเมื่อมารู้ตัวอีกทีก็ค่ำแล้ว และไม่รู้จะนำไปมอบใคร และในเช้าวันนี้ตนจึงได้นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปมอบให้แก่ นายสราวุฒิ จาปรัง หัวหน้างานกิจกรรมกองกิจการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อนำไปมอบให้แก่ญาติของผู้ตายแล้ว