“ชาติพัฒนากล้า” นำทัพเปิดตัว 2 ว่าที่ผู้สมัคร ชิง ส.ส.ภูเก็ต ชูนโยบาย “ภูเก็ตจัดการตัวเอง

โพสเมื่อ : Saturday, November 12th, 2022 : 8.58 pm

 

พร้อมชิงเก้าอี้ ส.ส.ภูเก็ต “ชาติพัฒนากล้า” นำทัพเปิดตัว 2 ว่าที่ผู้สมัคร “อ้อ อรทัย เกิดทรัพย์” เขตเลือกตั้งที่ 2  “เทมส์ ไกรทัศน์” เขตเลือกตั้งที่ 3 ชูนโยบาย ภูเก็ตจัดการตัวเอง ขณะผู้สมัครเป็นคนรุ่นใหม่มีความรู้ ความสามารถ พร้อมนำประสบการณ์มาพัฒนาภูเก็ต

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ลานลม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต พรรคชาติพัฒนากล้า จัดเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรค ใน จ.ภูเก็ต ภายใต้ชื่องาน “D.I.Y ภูเก็ตบ้านเราจะพัฒนา…ต้องกล้า จัดการตนเอง” นำทีมโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรค พันเอกวินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ นายวรวุฒิ อุ่นใจ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค โดยมีประชาชนชาวภูเก็ต เข้าร่วม

 

สำหรับว่าผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต ของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ มีเพียง 2 เขต เท่านั้น คือ เขตเลือกตั้งที่ 2 น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ และ เขตเลือกตั้งที่ 3 นายเทมส์ ไกรทัศน์ ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ยังไม่ได้มีการเปิดตัวในวันนี้ ซึ่งว่าที่ผู้สมัครทั้ง 2 คน เป็นคนภูเก็ตรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ มีความตั้งใจและพร้อมที่จะนำประสบการณ์การทำงานมาพัฒนาบ้านเกิดให้เข้มแข็ง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวภูเก็ตที่ดีขึ้น

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า วันนี้มาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคที่ภูเก็ต พรรคมากันครบทีม เพราะภูเก็ตเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทางพรรคให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ตมาก ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก และการท่องเที่ยวนั้นสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด และการมาภูเก็ตในครั้งนี้อยากจะบอกกับชาวภูเก็ตว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีความมั่นใจมากว่าพรรคมีคนที่พร้อมจะทำงานเพื่อประชาชน และเป็นคนที่ประสบการณ์ในการทำงานมาแล้วหลายกระทรวง และว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 2 คน เป็นคนรุ่นใหญ่ที่พร้อมจะมาช่วยพัฒนาภูเก็ต

ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวอีกว่า คนภูเก็ตเดือดร้อนมากจากวิกฤตโควิด นักท่องเที่ยวหายไปทั้งหมด รายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวก็หายไปทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งมองว่าการท่องเที่ยวจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา คาดว่าในปี 2566 นักท่องเที่ยวจะเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน ปี 67 จะเข้ามา 40 ล้านคน เหมือนก่อนเกิดโควิด เศรษฐกิจของภูเก็ตจะค่อยๆดีขึ้น และเชื่อมั่นว่าท่องเที่ยวภูเก็ตจะกลับมาในเร็วๆนี้ เพราะภูเก็ตสวย ทั้งธรรมชาติ ประเพณีวัฒนธรรม อาหารอร่อย เพียงแต่ภูเก็ตจะต้องเตรียมความพร้อมในการรองรับ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และเชื่อว่าในอีก 7-8 ปีข้างหน้าภูเก็ตจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคนต่อปี ทำรายได้ให้คนภูเก็ตเฉลี่ยคนละ 2 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งภูเก็ตจะต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ

ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงแนวนโยบายการจัดการตนเองของภูเก็ต ว่า ตนได้มาภูเก็ตบ่อยขึ้นในช่วงโควิดระบาดได้ จนได้คน 2 คน มาเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรค โดยเฉพาะ เทมส์ ไกรทัศน์ นั้นเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคกล้าและอาสาที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต เขต 3ของพรรค และได้รู้จักกับคุณอรทัย เก็บทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัครของพรรคในเขต 2 ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ พร้อมที่จะนำประสบการณ์การทำงานมาพัฒนาภูเก็ต และที่สำคัญเป็นคนที่มีจิตอาสา เป็นคนที่ตรงกับดีเอ็นเอของพรรค

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า จากการที่ได้ลงภูเก็ตหลายครั้ง ได้พบปะกับชาวภูเก็ตทุกๆกลุ่มอาชีพ ทำให้สังเกตเห็นความเป็นภูเก็ต ใน 4 เรื่อง คือ 1.ภูเก็ตเป็นเมืองน่าอยู่และน่าเที่ยว 2.ภูเก็ตเป็นของแท้ของจริง ทั้งในเรื่องของย่านเมืองเก่า ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี อาหารอร่อย 3.คนภูเก็ต เก่ง มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และ 4. ได้เห็นว่าสิ่งที่คนภูเก็ต ภาคเอกชน ต้องการทำจะทำให้สำเร็จ แต่สิ่งรัฐบาลรับผิดชอบนั้น ยังล่าช้า และยังไม่ตอบโจทก์คนภูเก็ต พรรคจึงมองว่าภูเก็ตต้องมีโอกาสในการดูแลตนเอง แต่ยังคงรักษาโครงสร้างการปกครองในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้เช่นเดิม แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะต้องมาจากการเลือกตั้งแทนการแต่งตั้งจากส่วนกลาง

การจัดการตนเองของภูเก็ต ผู้ว่าจะต้องมาจากการเลือกตั้งของคนภูเก็ต เพื่อให้คนภูเก็ตเลือกผู้ว่าฯที่ยากได้ และผู้ว่าฯไม่ต้องรอคำสั่งจากส่วนกลาง คนภูเก็ตสามารถกำหนดงบประมาณได้เอง ใช้ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้ และตอบโจทก์ภูเก็ต และคนภูเก็ตเลือกอนาคตได้เองให้ภูเก็ตเป็น world Class City

ขณะที่ นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว การเมืองเป็นเรื่องที่อยู่ใน ดีเอ็นเอ พ่อและน้องชายของตนก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่นเป็นนักพัฒนามาโดยตลอด การที่ตนเลือกพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะผู้บริหารเปิดโอกาสและรับฟังปัญหาของชุมชนจากปากของผู้สมัคร เราจึงอยากจะกล้าพัฒนาชาติไปกับชาติพัฒนากล้า และเชื่อว่าจะทำให้ภูเก็ตเจริญขึ้นอย่างแน่นอน จากการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง จนได้ฉายา “อ้อเต็มที่” มันจึงเป็นเหมือนคำสัญญาว่าจะทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองสวรรค์ของนักท่องเที่ยว และ คนภูเก็ตได้อยู่ในเมืองสวรรค์จริง ๆ

ภูเก็ตวันนี้เติบโตขึ้นเยอะมาก ในสายตาของคนนอก ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย แต่ปัจจุบันคนภูเก็ตบ้านเรายังเหนื่อยกับสภาวการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโควิดที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดข้าวยากหมากแพง คนตกงาน ขาดรายได้  ทำให้อยู่กันอย่างลำบาก นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่การพัฒนายังไม่ทันต่อความต้องการ และ การเติบโตของเมือง ถ้าตนมีโอกาสจะพลักดันโครงการต่าง ๆ ในภูเก็ตให้เกิดขึ้น เพื่อคนจังหวัดภูเก็ตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มท่องเที่ยว หรือ คนในชุมชน

ด้านเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ภูเก็ตต้องเป็นจัดหวัดจัดการตนเอง เขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวพิเศษ เมืองคุณภาพชีวิตมาตรฐานระดับโลก และ เมืองปลดล็อคกฎหมายและระเบียบที่ไม่จำเป็น ที่ผ่านมาตนมีความชัดเจนและมุ่งมั่นที่เข้ามาสู่การเมือง เพื่อที่จะทำงานพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้ดีขึ้น และ ภูเก็ตจะต้องได้รับการดูแลแบบพิเศษ เพราะภูเก็ตเป็นพื้นที่พิเศษ จะให้ภูเก็ตจะใส่เสื้อโหลเหมือนที่อื่นไม่ได้ ภูเก็ตจะต้องได้รับการตัดเสื้อสูทเพื่อภูเก็ตโดยเฉพาะ การพัฒนาภูเก็ตจะต้องทำโดยคนที่เข้าใจ คนที่มีความรู้ความสามารถ ถ้ารัฐให้โอกาสภูเก็ตในการพัฒนาภูเก็ต บริหารจัดการด้วยตัวเอง เชื่อว่าภูเก็ตจะเป็นห้องรับแขกที่สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ตราบนานเท่านาน

นายเทมส์ กล่าวต่อว่า แม้ตนจะเพิ่งเข้าสู่การเมือง แต่ก็มีความตั้งใจมาทำงานจริง เมื่อประกาศตัวว่าจะลง ส.ส.ก็ลุยเลย และทำงานมาตลอด เริ่มจากวันที่ไม่มีใครรู้จัก จนพิสูจน์ได้ว่าเราทำได้ และ ก็ทำงานมาอย่างต่อเนื่องอยู่เคียงข้างกับประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤต มาโดยตลอด