(ชมคลิป)เรือชนกลางทะเล นทท.จีนดับ 2 ราย บาดเจ็บเพียบ ผวจ.คาดคนขับประมาท
โพสเมื่อ : Wednesday, June 8th, 2016 : 5.41 pm
คืบหน้าเรือสปีดโบ๊ทชนกันกลางทะเลบริเวณกองหินมูสัง ระหว่างเกาะภูเก็ต –เกาะพีพี จ.กระบี่ นักท่องเที่ยวจีนถูกแรงกระแทก เสียชีวิต 2 ราย ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นผู้ว่าฯ คาดเกิดจากความประมาทของคนขับเรือ
สำหรับความคืบหน้า จากกรณี เรือสปีดโบ๊ท เรือหงส์ฟ้า 20 บรรทุกนักท่องเที่ยว จำนวน 26 คน และ เรือชลกิต 856 บรรทุกนักท่องเที่ยวจำนวน 36 คน ชนกัน กลางทะเลอันดามันบริเวณ หินมูสัง ระหว่างเกาะภูเก็ต หลังเกิดเหตุทางตำรวจน้ำภูเก็ต ได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ระดมกำลังออกไปช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุในเบื้องต้นเรือดำน้ำ ส.สมบูรณ์ 3 ซึ่งพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำในบริเวณใกล้จุดที่เกิดเหตุ ได้เข้าไปช่วยเหลือและนำนักท่องเที่ยวขึ้นเรือในเบื้องต้น ซึ่งมีทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ในเวลาต่อมา เวลาประมาณ 13.05 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และ ทางเจ้าของเรือ ได้นำนักท่องเที่ยวทั้งหมดกลับเข้าฝั่ง โดยกระจายไปขึ้นยังท่าเรือต่างๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตก่อนที่จะนำตัวไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่ง ประกอบด้วย ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยสารเรือหงส์ฟ้า 20 นำขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเอเชียมารีน่า ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 26 คน พร้อมนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลมิชชั่น ภูเก็ต ส่วนผู้โดยสารจากเรือชลกิต 856 มีจำนวน 36 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย เสียชีวิต 2 ราย ผู้เสียชีวิต 2 ราย ประกอบด้วยผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนผู้หญิง 1 ราย ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนอีกรายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีนอายุ 62 ปี ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวที่โรงพยาบาลในขณะนี้มีจำนวน 18 ราย ประกอบด้วย โรงพยาบาลวชิระ 6 ราย โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 3 ราย และโรงพยาบาลมิชชั่นจำนวน 9 ราย ไม่มีผู้สูญหาย
จากการสอบถาม นางสาวบุศรินทร์ สอนอินทร์ อายุ 25 ปี เจ้าของเรือชลกิต กล่าวว่า เรือลำดังกล่าว ได้ออกจากท่าเทียบเรืออินทรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เวลาประมาณ 09.00 น. มีนักท่องเที่ยว ลูกเรือ และไกด์ รวมทั้งหมด 40 คน นำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ระหว่างที่เรือใกล้ถึงจุดหมาย ได้มีเรือสปีดโบต ของบริษัทแห่งหนึ่งได้พุ่งชนเข้าด้านข้างอย่างรุนแรง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวได้รับแรงกระแทกและตกลงภายในเรือ โดยที่ไม่นักท่องเที่ยวรายใดตกลงน้ำ หลังจากที่เกิดเหตุเรือคู่กรณีไม่ให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด โดยมีเรือใกล้เคียงที่เห็นเหตุให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในเรือในที่สุด และเมื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวขึ้นบนเรือลำใกล้เคียงเสร็จ จากนั้นได้เรือลำดังกล่าวไว้ที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา แต่พอมาถึงที่ท่าเรือเกาะยาวเรือก้ได้จมลงในทะเล
ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รองผู้กำกับการตำรวจน้ำภูเก็ต หลังด้รับแจ้งว่ามีเหตุเรือชนกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหารเรือ มูลนิธิกุศลธรรม เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอบจ.ภูเก็ต โรงพยาบาลในพื้นที่ ได้ออกไปให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้ทั้งหมด ไม่มีผู้สูญหาย แต่มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายและหญิง สัญชาติจีน และมีผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย
โดยนักท่องเที่ยวที่โดยสารไปกับเรือลำดังกล่าวต่างก็สวมเสื้อชูชีพทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิตคาดว่าเกิดจากแรกกระแทกที่เกิดจากเรือที่ถูกชนอย่างแรง ซึ่งต้องให้หมอชันสูตรก่อนถึงจะสรุปสาเหตุการตายที่แท้จริงได้ ส่วนสาเหตุของเรือชนในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุทันที่ที่ศาลากลางหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้ทางเจ้าท่าฯ ภูเก็ต ให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกท่าเทียบเรือ และให้มีการสแกนหน้าหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวทุกครั้งที่ลงเรือ เพื่อนำข้อมูลมาใช้กรณีที่มีปัญหา
ขณะที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สรุปข้อมูลเหตุการณ์เรือสปีดโบ๊ทชนกัน ว่า กรณีเกิดเหตุการณ์เรือสปีดโบตขนาดใหญ่บรรทุกผู้โดยสารเต็มเรือทั้งสองลำ ซึ่งเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต ไปท่องเที่ยวหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ชนกันบริเวณหินมูสัง บริเวณด้านใต้ของเกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา หลังเกิดเหตุจังหวัดภูเก็ตได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทั้งหมด ไม่มีผู้สูญหาย
นายจำเริญ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์เรือชนกันครั้ง เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต ศูนย์ ปภ.เขต 18 ภูเก็ตและมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้บูรณาการเข้าให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ ซึ่งใช้เวลาในการปฏิบัติงานและยุติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ได้ภายใน 2 ชั่วโมง สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทั้งหมด ไม่มีผู้สูญหาย เนื่องจาก จ.ภูเก็ตมีมาตรการเข้มงวดให้ผู้โดยสารทุกคนสวมเสื้อชูชีพ ส่วนสาเหตุเรือชนกันน่าจะเกิดจากความประมาทของคนขับเรือ.
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ กกต.ภูเก็ต จัดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งนายกและส.อบจ....
- อบจ.ภูเก็ต จัดโครงการเก็บขยะใต้ทะเล แหล่งปะการังเทียม ประจำปี 2568...
- “ศุภาลัย” รุกตลาดบ้านแนวราบมิกซ์โปรดักส์ ปักธง แลนด์มาร์คใหม่ภูเก็ต เปิดตัว “ไพร...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Th...
- บจ.ภูเก็ต ประชุมเพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดแยกและแจกจ่ายบัตรเลือกตั...
- อบจ.ภูเก็ตร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39...
- January 2025 (21)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)