ฉลามขาวส่งที่ดิน 1,500 ไร่พิสูจน์ หลังเจ้าของนำหลักฐานแสดงขณะตรวจสอบ

โพสเมื่อ : Thursday, June 2nd, 2016 : 8.07 pm

ฉลามขาวแจ้งจับรุกป่าชายลนแล้ว27 คดี ผู้ต้องหา 22 คน ขณะที่อีก 1,500 ไร่แสดงหลักฐานครอบครองเตรียมตรวจสอบออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตามแผนพลิกฟื้นผืนป่าชายเลน จ.ภูเก็ต จำนวน 34 แปลง เนื้อที่รวม 2,200 ไร่

81167

สำหรับความคืบหน้า การปฏิบัติงานตรวจสอบพื้นที่ป่า ชายเลน ของชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งนำโดย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ตามแผนปฏิบัติการ พลิกฟื้นผืนป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 23 -31 พ.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) ว่า การปฏิบัติงานของชุดฉลามขาวกำหนดเป้าหมายการทวงคืนผืนป่าชายเลนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 34 เป้าหมาย เนื้อที่ 2,200 ไร่ โดยเริ่มปฏิบัติการตรวจสอบระหว่างวันที่ 23 -31 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีการกระทำความผิดเนื่องจากผู้อ้างสิทธิเข้าไปครอบครองพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้จำนวน 27 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 22 คน พื้นที่กระทำความผิดจำนวน 669 ไร่ ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งในจำนวนนี้ รวมถึงกรณีการบินสำรวจพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่ ตำบลโคกกลอย อ.ท้ายเหมืองจ.พังงา ซึ่งจากการบินสำรวจเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาพบว่ากำลังมีการปรับปรุงหน้าดินเพื่อทำโครงการสวนน้ำขนาดใหญ่ โดยจุดนี้มีการนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงจำนวน 2 ฉบับ แต่การตรวจสอบพบว่ามีการปรับพื้นที่เกิดกว่าเอกสารที่ดินที่มีอยู่ จึงได้มีการดำเนินคดีกับเจ้าของที่ดินไปแล้วเช่นกัน

นายวัชรินทร์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามหลังจากแจ้งความดำเนินคดีแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนแต่ละพื้นที่เพิ่มเติม และส่งฟ้องศาล ซึ่งตามหลักฐานที่มีเชื่อว่าจะสามารถทวงคืนที่ดินจำนวน 669 ไร่กลับมาเป็นของรัฐได้โดยไม่มีปัญหาอะไร หลังจากผ่านขั้นตอนดังกล่าวทางกระทวงก็จะดำเนินการฟื้นฟูและปลูกป่าชายเลนในที่ดินที่ยึดคืนมาทั้งหมด เพื่อคืนพื้นที่ผ่าชายเลยให้กลับมาเป็นของชาติต่อไป

ขณะที่ที่ดินอีกจำนวนกว่า 1,500 ไร่ ซึ่งเจ้าของผู้ครอบครองนำเอกสารหลักฐานการครอบรองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบนั้น ในส่วนนี้ ตนได้เซ็นคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินทั้ง 1,500 ไร่ ว่า เป็นการได้มาโดยชอบหรือไม่ ในเบื้องต้นเชื่อไว้ก่อนว่าได้มาโดยชอบ แต่จะต้องมาการตรวจสอบให้ชัดเจน ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางเข้ามาช่วยดูแล และจะต้องนำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยตรวจสอบ รวมถึงการแปรภาพถ่ายทางอากาศด้วย โดยมีประกาศเขตป่าสงวนเมื่อปี 2507 และจากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศเมื่อปี 2510 พบว่าสภาพื้นที่ยังเป็นป่าชายเลนสมบูรณ์ แต่ในปัจจุบันพบว่าพื้นที่ป่าชายเลนส่วนใหญ่มีเจ้าของหมดแล้ว และจากการยื่นคำขอออกโฉนดส่วนใหญ่จะใช้ใบเหยียบย้ำมายื่นข้อ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ว่าเป็นการออกโฉนดโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่