จ่อออกหมายจับ 2 สามีภรรยาสร้างบ้านลอยน้ำในทะเลระบุมีชาวเยอรมันเอี่ยวอีกราย

โพสเมื่อ : Friday, July 5th, 2019 : 9.39 pm

จ่อออกหมายจับ สองสามีภรรยา สร้างบ้านลอยน้ำในทะเล 15 ก.ค.นี้ ไม่มาพบพนักงานสอบสวน เผยพบชาวเยอรมัน เอี่ยวสร้างบ้านลอยน้ำเพิ่มอีก เตรียมออกหมายเรียก เพิกถอนวีซ่า ในพื้นที่ทะเลต่อเนื่องของไทย

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พลเรือโทไกรศรี เกษร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล) หรือ ศรชล.พร้อมด้วย พลเรือตรี วิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวันฉัตร ชุณหถนอม อัยการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในคดี ร่วมกันแถลงข่าวคดีการดำเนินคดีกรณีสิ่งปลูกสร้างในทะเล (Seasteading) ภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งปลูกสร้างในทะเล หรือ บ้านลอยน้ำ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

 

สำหรับคดีสิ่งปลูกสร้างในทะเลนั้น เกิดขึ้นจากชาวต่างชาติ คือ นายเซด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ สัญชาติอเมริกัน และภรรยาคนไทย คือ นางสุปราณี เทพเดช หรือ นาเดีย ภรรยาชาวไทย ได้ประกาศความสำเร็จในการสร้างบ้านลอยน้ำและลากไปติดตั้งในบริเวณทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากเกาะราชาใหญ่ ประมาณ 14ไ มล์ทะเล หรือ ที่จุดละติจูด 7 องศา 29.37 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 98 องศา 34.81 ลิปดาตะวันออก พร้อมประกาศเชิญชวนให้ผู้ที่มีแนวคิดในการประกาศตั้งรัฐอิสระมาซื้อบ้านลอยน้ำดังกล่าว จำนวน 20 ยูนิต ผ่านทางโซเชียล

 

โดยระบุว่าจุดที่ติดตั้งบ้านลอยน้ำนั้นอยู่ในเขตน่านน้ำสากล เป็นการละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย ทาง ศรชล.ภาค 3 จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับสองสามีภรรยา ในฐานความผิดละเมิดอธิปไตยของไทย ตามประมวกกฎหมายอาญามาตรา 119 และละเมิดอธิปไตยของประเทศไทยที่มีเหนือเขตต่อเนื่องตามข้อ 56B และข้อ 60 วรรค 7 และ วรรค 8 ของอนุสัญญากฎหมายทางทะเล ค.ศ.1982 อันเป็นการทำให้ประเทศไทยสูญเสียเอกราชที่มีในเขตต่อเนื่องและได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของนาย เซด ฯ พร้อมทั้งได้ดำเนินการรื้อถอนและเคลื่อนวัตถุลอยน้ำ หรือ บ้านลอยน้ำ ดังกล่าวมาเก็บไว้ที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ที่อยู่ในการดูแลของเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต

โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.วิชิตได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา คือ นายเซดฯ และภรรยาคนไทย ไปแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 จะมีกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหามารายงานต่อภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้ หากไม่มาตามกำหนด พนักงานสอบสวนจะดำเนินการทำคำร้องต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับต่อไป

นายวันฉัตร ชุณหถนอม อัยการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดี กล่าวว่า เกี่ยวกับการกระทำความผิดทางทะเลนั้น ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้แต่งตั้งนายให้ตนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนและแต่งตั้งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เป็นพนักงานสอบสวนร่วมในการสรุปสำนวน ซึ่งสำนวนดังกล่าวได้เสร็จสิ้นแล้ว ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 ก.ค.นี้ หากผู้ถูกกล่าวหาไม่มาตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนจะขออำนาจศาลจังหวัดภูเก็ตในการขอออกหมายจับต่อไป

ในส่วนของการกระทำความผิดที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งเป็นการสนับสนุนทำให้เกิดการกระทำผิดในทะเลด้วยการประกาศเป็นรัฐอิสระนั้น จากการสอบสวนน่าจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดบนบกในพื้นที่ 130 ไร่ มีทั้งที่เป็นบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งการจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นจะต้องดำเนินการอย่างละเอียดรอบครอบ เพราะความผิดที่เข้าไปสนับสนุนการทำตามผิดตามมาตรา 119 เป็นโทษที่หนักมาก

นายวันฉัตร กล่าวต่อว่า ขณะนี้จากการสืบสวนพบว่ามีการกระทำความผิดบนบก ที่เข้าไปสนับสนุนการกระทำผิดของสองสามีภรรยาในการประกาศเป็นรัฐอิสระในทะเลเขตต่อเนื่องของไทย เป็นชาวต่างชาติ สัญชาติเยอรมัน มีภรรยาเป็นคนไทย ที่เข้าไปสนับสนับสนุนในเรื่องการเงิน โดยขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานได้ในระดับหนึ่งแล้ว อยู่ในขั้นตอนการขอความเห็นชอบจาก ศรชล. ทัพเรือภาค 3 และ ผอ.ศรชล.จังหวัดภูเก็ต เพื่อขอออกหมายเรียกและเพิกถอนวีซ่า เนื่องจากคดีดังกล่าวมีโทษที่สูงมาก การดำเนินคดีจึงต้องทำอย่างรอบครอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ ยังพบว่า มีนิติบุคคล 4 แห่ง ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คนไทย 7 คน และคนต่างชาติอีก 1 คน

สำหรับคดีนี้ ขณะนี้มีผู้ต้องหาที่แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 2 คน คือ นายเซดฯ และภรรยา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกหมายเรียก และอีก 1 คน กำลังจะถูกกล่าวหา และกำลังจะตกเป็นผู้ต้องหาอีก 4 นิติบุคคล ซึ่งทั้งหมดกระทำความผิดที่เข้าไปสนับสนุนให้มีกระทำความผิดในการติดตั้งบ้านลอยน้ำและการประกาศเป็นรัฐอิสระ